คุมตัวได้แล้ว 1 จาก 3-4 ผู้ต้องหา (ตามที่เจ้าหน้าที่แถลง) หลังครบรอบหนึ่งเดือนเยาวชนถูกยิงตรงข้าม สน.ดินแดง เสียชีวิต
นับเป็นเวลา 1 เดือนพอบดิบพอดีที่ วาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนวัย 15 ปีที่ถูกยิงตรงข้าม สน.ดินแดงเสียชีวิต หรือมากกว่า 3 เดือนแล้วที่เกิดเหตุ ล่าสุด TheMATTER พยายามติดตามความคืบหน้าของคดีนี้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่…
(สำหรับคนที่ไม่ได้ตามคดีนี้ เลื่อนไปอ่านที่สี่บรรทัดล่างนะครับ)
The MATTER พยายามติดต่อหา พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ดินแดง ในฐานะเจ้าของพื้นที่เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าคดี แต่ผู้กำกับก็ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ และให้โทรหาทาง บช.น. แทน ทาง The MATTER ก็โทรหา บช.น. แต่ทางนั้นก็ให้โทรฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ บช.น. ทางเราก็โทรตามไปต่อ ทางนั้นก็บอกให้ติดต่อหา พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. ซึ่งทางเราก็พยายามติดต่อเบอร์ภายในโฆษก บช.น. ไป 7 สาย แต่ก็ไม่มีคนรับโทรศัพท์
จนล่าสุด The MATTER ติดต่อหา พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบ.บช.น. และเขาก็ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ผ่านทางข้อความ SMS โดยบอกว่า “คดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาไปแล้วสิครับ ผมตอบจะไม่สะดวก”
เราจึงโทรหา พ.ต.ต.เชาวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.ก้าวไกล ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการสืบหาความจริงกรณีนี้ เขากล่าวว่า “ผิดหวังกับความคืบหน้าของคดีในตอนนี้” เพราะหลักฐานจาก กมธ. ก็ได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งมันก็พอบ่งบอกพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุได้บ้าง เช่น ลักษณะการก่อเหตุ จำนวนผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม อำนาจหน้าที่ในการสืบสวนและหาหลักฐานเพิ่มเติมยังเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ดี
“เหตุการณ์นี้มันชี้ให้เห็นว่าถ้าตำรวจเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดี มันก็ไม่มีองค์กรอื่นที่จะพึ่งพาได้แล้ว ไม่เหมือนต่างประเทศที่โรงพักขึ้นกับท้องถิ่น ตำรวจส่วนกลางก็แยกเป็นอีกส่วน ซึ่งถ้าตำรวจส่วนกลางมีส่วนได้เสียในคดี ก็ยังพึ่งพาตำรวจท้องถิ่นได้ แต่ของประเทศไทย ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นขึ้นตรงกับนายกฯ” อดีตนายตำรวจตั้งข้อสังเกต
อีกประเด็นหนึ่งที่เขาเป็นกังวลคือ คดีนี้อาจเกิดการจับแพะก็เป็นไปได้ “ผมยังคาดหวังให้เขาตามจับบุคคลที่ก่อเหตุให้ได้ครบถ้วน และชี้แจงที่มาที่ไปที่ยืนยันว่าเป็นคนรายตัวจริง เพราะจากที่ผมดูตอนนี้ มันยังมีโอกาสหลุดได้ หรือเขาอาจไปจับคนที่ไม่ใช่ (แพะ) มาเลยก็ได้ เพื่อให้หลักฐานไม่แน่นหนาพอแล้วหลุดคดี จนกลายเป็นว่าเอาผิดใครไม่ได้เลยก็เป็นได้”
ทางด้านนิภาร สมน้อย แม่ของวาฤทธิ์ ให้ความเห็นถึงหลักฐานที่ กมธ. ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและความคืบหน้าคดีในตอนนี้ “ถามว่ามันชัดเจนไหม เราคงจะบอกไม่ได้ 100% แต่ถ้าเขาตามกันจริงๆ แม่ว่ามันน่าจะไล่กล้องหลายๆ ตัวทั้งหน้า สน. และในซอยข้างๆ ได้”
สำหรับเธอในฐานะแม่ของผู้สูญเสีย เธอรู้สึกว่าคดีนี้มันมีความคลุมเครือ ไม่โปร่งใส ไม่ชัดเจน เพราะตั้งแต่เกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อหาเธอเพียงครั้งเดียวคือ เพื่อแสดงความเสียใจหลักลูกชายของเธอเสียชีวิต
“ครอบครัวไม่เคยได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่น้องโดนยิงจนน้องเสียชีวิต แม่ได้รับสายจากเจ้าหน้าที่เพียงครั้งเดียวคือวันที่ผ่าชันสูตรศพน้อง (28 ตุลาคม) มีเจ้าหน้าที่โทรมาแสดงความเสียใจแค่นั้น แต่เรื่องคดีแม่ยืนยันว่าไม่เคยได้รับข้อมูลเลย”
“น้องไม่ควรต้องตายคลุมเครือแบบนี้ และตายที่หน้า สน.ดินแดง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีประชาชนคนไหนที่จะเดินเข้าออกได้ระหว่างนั้น มันเลยเป็นจุดที่ทำให้แม่สงสัยว่า ทำไมคดีมันถึงคลุมเครือและไม่ชัดเจน และแม่คิดว่าหลายคนก็คงคิดเหมือนแม่” คุณแม่กล่าวถึงการสืบสวนสอบสวนคดีในระยะเวลาที่ผ่านมา
“ถ้าเขาตั้งใจที่จะทำคดีนี้จริง มันน่าจะจบแล้ว” เธอทิ้งท้าย
ย้อคดีวาฤทธิ์ สมน้อย วาฤทธิ์เป็นเยาวชนวัย 15 ปีที่เดินทางมาร่วมชุมนุมที่แยกดินแดงในวันที่ 16 สิงหาคม ก่อนในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. เขาจะถูกกระสุนปืนจากกลุ่มชายนิรนามที่มารวมตัวบริเวณซอยข้างๆ สน.ดินแดง ยิงเข้าบริเวณก้านคอทำให้กระดูกต้นคอซี่ที่ 1 และ 2 แตก และต้องนอนไม่ได้สติอยู่ในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลราชวิถีเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนก่อนเสียชีวิตในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา (นอนตั้งแต่คืนวันที่ 18 สิงหาคม)
โดย กมธ.การเมืองฯ ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด 54 ตัวในซอยมิตรไมตรีและแยกโรงน้ำ (บริเวณ สน.ดินแดง) มีภาพกลุ่มชายชุดดำพร้อมรถมอเตอร์ไซค์ 12 คนอยู่บริเวณถนนมิตรไมตรี ตรงกับคำให้การของเยาวชนวัย 14 ปีที่ได้รับบาดเจ็บกระสุนปืนยิงเข้าที่ไหล่ โดยเขาเล่าว่ากลุ่มชายชุดดำยืนทำร้ายผู้ชุมนุมอยู่กลางถนน และเขาซึ่งกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรับเพื่อนถูกตีด้วยไม้จนล้มลง ก่อนพบว่าตัวเองถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หัวไหล่
ก่อนกลุ่มชายชุดดำจะขับรถเข้าซอยด้านหลัง สน.ดินแดง ตรงกับที่ประชาชนในพื้นที่ถ่ายคลิปเอาไว้ และเห็นว่าชายกลุ่มดังกล่าวยิงปืนราว 15 นัดไปทางถนนมิตรไมตรี ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่วาฤทธิ์ถูกยิงล้มลง
ความคืบหน้าคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าสุดวันที่ 31 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงผลการจับกุม ชุติพงศ์ ทิศกระโทก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในกล้องวงจรปิดในคืนวันนั้นได้ที่จังหวัดกาญจนบุรี อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่คาดว่ายังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกประมาณ 3-4 คน
อ่านบทสัมภาษณ์ นิภาพร สมน้อย แม่ของวาฤทธิ์ได้ที่:
https://thematter.co/social/interview-mother-of-boy-who-shot-infrontof-dindaeng-policestation/155309
อ้างอิง:
https://thematter.co/brief/158997/158997