คลิปวีดีโอที่มียอดผู้ชมมากกว่า 350 ล้านในโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นทหารในมณฑลเจียงซี ทางตอนใต้ของจีนจับชาย 4 คน เดินประจานความผิดไปรอบเมือง เพราะถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนนโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์ (Zero Covid-19 Policy)” ลักลอบพาคนข้ามพรมแดน
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ชาย 4 คนถูกทางการจีนจับและตั้งข้อหาลักลอบพาคนข้ามแดน ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนนโยบายป้องกันไวรัสของประเทศจีน ที่ยังคงห้ามไม่ให้มีการเข้าออกพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกบังคับให้ใส่เสื้อป้องกันสารเคมี ไพล่แขนไว้ข้างหลัง มัดมือ และติดป้ายข้อความที่มีที่ชื่อและรูปภาพบริเวณใบหน้าที่ซ่อนอยู่ในชุด ก่อนพาเดินแห่ไปตามถนนในเมืองเจียงซีเพื่อประจานความผิด
สำนักข่าว Global Times รายงานว่า การลงโทษลักษณะนี้ถูกศาลและกระทรวงรักษาความปลอดภัยในราชอาณาจักรจีนสั่งยกเลิกมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 แล้ว แต่แม้จะมีคำสั่งให้ยกเลิกการลงโทษลักษณะนี้ไปกว่า 40 ปี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ในมณฑลเหอเป่ย เจ้าหน้าที่จีนก็เพิ่งผูกชายคนหนึ่งไว้กับต้นไม้เพราะเขาฝ่าฝืนมาตรการล็อคดาวน์ เดินไปซื้อบุหรี่
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวเน็ตจีนใน Weibo แสดงความเห็นแตกออกไปสองทาง บ้างเห็นด้วยกับการลงโทษครั้งนี้ และบ้างแสดงความเห็นอกเห็นใจชายทั้งสี่คน
“สิ่งที่น่ากลัวกว่าการถูกพาเดินประจานความผิดคือ การที่หลายคนในนี้ (Weibo) เห็นด้วยกับมัน” หนึ่งในผู้ใช้อินเตอร์รายหนึ่งแสดงความเห็น
ด้านสำนักข่าวของรัฐ Beijing News ประนามว่าทั้งสี่คน “ละเมิดจิตวิญญาณของกฎหมายอย่างร้ายแรง และไม่สามารถยอมให้เกิดขึ้นได้อีกแม้แต่ครั้งเดียว” หรือแปลว่าเห็นด้วยกับการประนามความผิดครั้งนี้
ถึงแม้หลายฝ่ายจะวิจารณ์นโยบาย COVID-19 เป็นศูนย์ของจีน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของจีนเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. อยู่ที่ 203 รายเท่านั้น ขณะที่เทียบกับช่วงสิ้นปี 2019 ที่จีนเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัส และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าวันละ 100,000 ราย
ดูคลิปดังกล่าวได้ที่:
https://twitter.com/billbirtles/status/1476139169739010051
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-59818971
#Brief #TheMATTER