เจ้าอาณานิคมสเปนในศตวรรษที่ 16 ไม่ได้มาถึงทวีปอเมริกาตัวเปล่า แต่มาพร้อมกับการรุกราน การฆ่าฟัน รวมทั้งโรคระบาด และก็ไม่ได้กลับไปตัวเปล่าด้วย แต่มีการปล้นขุมทรัพย์ต่างๆ ไปมากมาย รวมทั้งหลุมศพของชาวพื้นเมืองด้วย
งานวิจัยที่เพิ่งเผยแพร่ในวารสาร Antiquity นำโดย ดร.เจค็อบ บองเกอร์ส จากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลียในอังกฤษ รายงานถึงการค้นพบ ‘กระดูกสันหลังมนุษย์เสียบไม้’ จำนวน 192 ชิ้น บริเวณหลุมศพในหุบเขาชินชาของเปรู ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรชินชาที่รุ่งเรืองในช่วง ค.ศ. 900 ก่อนกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอินคาในช่วงศตวรรษที่ 15
เดิมที ดร.บองเกอร์ส คาดว่าชิ้นไม้เหล่านี้น่าจะเป็นฝีมือของเจ้าอาณานิคมสเปนที่เข้ามาบุกรุก แต่จากการวิเคราะห์ ก็คิดว่าน่าจะเป็นความพยายามของชาวพื้นเมืองเพื่อฟื้นฟูให้โครงกระดูกเหล่านี้กลับคืนสู่สภาพเดิมมากกว่า
โดยจากการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี ก็พบว่า เจ้าของโครงกระดูกเหล่านี้ น่าจะเสียชีวิตในช่วง ค.ศ. 1520-1550 ซึ่งตรวจกับช่วงโรคระบาดและเกิดทุพภิกขภัยพอดี ขณะที่แท่งไม้จะมีอายุในช่วง ค.ศ. 1550-1590 สะท้อนว่าการซ่อมแซมเกิดขึ้นหลังจากเสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้ว โดยน่าจะเป็นช่วงหลังจากที่โดนเจ้าอาณานิคมปล้นหลุมศพ ซึ่งมาถึงเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1530
นอกจากนี้ ดร.บองเกอร์ส ยังระบุว่า มีการค้นพบกระดูกเสียบไม้เช่นนี้ในหลุมฝังศพหลายๆ เห็น จึงเป็นไปได้ว่ามีการสื่อสารกันระหว่างคนหลายกลุ่ม โดยน่าจะได้ข้อสรุปกันมาว่า การเสียบไม้แบบนี้ถือเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่ควรจะทำหลังจากถูกปล้นหลุมศพ
ในวัฒนธรรมของชาวพื้นเมืองหลายๆ กลุ่มที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาแอนดีส การรักษาสภาพศพให้สมบูรณ์ที่สุด เป็นสิ่งสำคัญกับการบูชาบรรพบุรุษ ที่ถือว่ายังเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอยู่ จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นข่าวการค้นพบมัมมี่ในแถบนี้อยู่บ่อยครั้ง
สำหรับการค้นพบในครั้งนี้ ดร.บองเกอร์ส ได้บอกว่า “ความตายไม่เคยเป็นจุดจบจริงๆ แต่สิ่งที่เราเห็นอยู่นี้ได้สะท้อนให้เห็นความผูกพันกับคนตายในระยะยาว ลัทธิล่าอาณานิคมยุโรปย่อมไม่สามารถหยุดยั้งให้คนท้องถิ่นมีปฏิสัมพันธ์กับคนตายได้”
ขณะที่ ดร.ทิฟฟินี ทุง นักชีวโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ ให้ความเห็นกับงานชิ้นนี้ว่า “ตอกย้ำให้เห็นเรื่องสยองที่ชุมชนพื้นเมืองต้องเจอในเงื้อมมือของพวกล่าอาณานิคมยุโรป” สะท้อนว่า “ชาวพื้นเมืองต้องพยายามรับมือและต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่สร้างบาดแผลต่อวิถีชีวิตของพวกเขา”
อ้างอิงจาก
https://www.nationalgeographic.com/history/article/mystery-behind-500-year-old-spines-on-sticks
https://www.science.org/content/article/reconstructed-human-spines-may-honor-peru-s-defiled-dead