วันนี้ (4 ก.พ. 2565) นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า กรรมการผู้เชี่ยวชาญได้อนุมัติการใช้วัคซีน Sinovac และ Sinopharm ให้ขยายขอบเขตการใช้สำหรับอายุ 6 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องมีการปรับขนาดยา
ส่วนการฉีดวัคซีน Sinovac และ Sinopharm ในกลุ่มเด็กอายุ 3-5 ปีนั้น อย.ได้แจ้งให้ผู้รับผิดชอบ 2 ราย คือ องค์การเภสัชกรรม ที่รับผิดชอบการนำเข้าวัคซีน Sinovac และบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด ที่รับผิดชอบการนำเข้าวัคซีน Sinopharm ให้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมโดยเร็ว เพื่อพิจารณาขยายการฉีดต่อไป
สำหรับประเด็นที่ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า วัคซีนเชื้อตายยังไม่มีคำแนะนำให้ฉีดในเด็กนั้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุวันนี้ว่า ในการฉีดวัคซีนใดๆ ก็ตาม สธ. คำนึงถึงประสิทธิภาพของวัคซีน และความปลอดภัย ซึ่ง สธ. มีนโยบาย คือ ให้ฉีดโดยสมัครใจ และมี อย. กำกับดูแลในเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว
เมื่อใดก็ตามที่ อย. ให้การรับรองการขึ้นทะเบียนการฉีดวัคซีนใดๆ สธ. ก็จะดำเนินการต่อไป โดยทราบกันดีอยู่แล้วว่า เชื้อโควิดไม่ได้เลือกที่จะติดกับเด็กหรือผู้ใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น ในระลอกการระบาด 1 เม.ย.-31 ธ.ค. 2564 เราเห็นเด็กอายุ 5-11 ปี ติดเชื้อ 123,403 ราย อายุ 12-17 ปี 111,952 ราย
และในระลอก ม.ค.-ก.พ. 2565 เด็กอายุ 5-11 ปี ติดเชื้อ 13,600 ราย อายุ 12-17 ปี 12,126 ราย เทียบเป็นสัดส่วนตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 พบว่า เป็นเด็ก 5-11 ปี 6% และอายุ 12-17 ปี 5.6% จะเห็นว่าการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
ส่วนจำนวนวัคซีน Sinovac ที่มีอยู่ในประเทศ นพ.โอภาส เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ได้มีการฉีดวัคซีน Sinovac โดยที่บันทึกข้อมูลแล้ว 27 ล้านโดส ส่วนที่ยังไม่ได้ฉีด ได้กระจายไปตามโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ แล้ว 4 ล้านโดส ประกอบกับที่กรมควบคุมโรครับบริจาคมาจากจีนอีก 2 ล้านโดส ทำให้มีวัคซีน Sinovac พร้อมฉีดให้กับประชาชนในปัจจุบันทั้งหมด 6 ล้านโดส ไม่จำเป็นต้องซื้อวัคซีนเพิ่ม
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
https://www.facebook.com/fanmoph/videos/4903400213046765