ตำรวจบราซิลพบอวัยวะมนุษย์ในห้องปฏิบัติการกายวิภาคศาสตร์ มหาวิทยาลัยอเมซอนนัสสเตต (UEA) ซึ่งเตรียมส่งไปให้นักออกแบบชื่อดัง ที่สร้างเครื่องประดับและเสื้อผ้าจากอวัยวะของมนุษย์
ตำรวจบราซิลได้บุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยอเมซอนนัสสเตต (UEA) ในเมืองมาเนาส์ ก่อนจะพบมือมนุษย์และห่อรกที่เก็บรักษาด้วยเทคนิคพลาสติเนชัน (plastination) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า อวัยวะเหล่านี้ถูกเก็บไว้เพื่อส่งไปให้นักออกแบบคนหนึ่ง ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ที่โด่งดังในช่วงปี 2020 หลังทำกระเป๋าจากกระดูกมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่า เขาอยู่เบื้องหลังการสั่งสินค้าจากมนุษย์เหล่านี้จริงหรือไม่
สำหรับเทคนิคพลาสติเนชันคือ การคงชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ที่เสียชีวิตให้ยังอยู่ในสภาพดีอด้วยการใช้สารพลาสติกเหลว เช่น silicon (ซิลิกอน) และ Epoxy (อีพ็อกซี) เข้าไปแทนที่น้ำและไขมันในเนื้อเยื่อ ทำให้ชิ้นส่วนหรือศพไม่มีกลิ่นเหม็นและไม่เน่าสลาย
หลังการตรวจพบครั้งสำคัญ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยที่เกี่ยวถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่แล้วเพื่อรอการสอบสวนหาความเกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยปฏิบัติการครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งปฏิบัติการสำคัญในการปราบปรามการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ
การใช้เลือด เนื้อ อวัยวะ และกระดูกของมนุษย์มาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ชิ้นงานไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการศิลปะ และที่ผ่านมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีนี้มากมาย ก่อนหน้านี้ แอนโธนี่-โนเอล เคลลี ศิลปินชาวอังกฤษซึ่งหลงใหลในอวัยวะของมนุษย์ก็เคยลักลอบนำร่างผู้เสียชีวิตมาทำงานศิลปะอย่างผิดกฎหมาย และถูกสั่งจำคุกเป็นเวลา 9 เดือน
ปัจจุบัน การค้าอวัยวะยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในเกือบทุกประเทศ ในบราซิลเองก็มีการกำหนดบทลงโทษสำหรับเอเย่นต์ผู้อยู่เบื้องหลังด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้แพทยชาวบราซิล 3 คนถูกตัดสินจำคุกในข้อหาฆาตกรรมผู้ป่วยในคลินิกแห่งหนึ่งเพื่อนำไตและอวัยวะอื่นๆ ไปขาย
อ้างอิงจาก
https://www.vice.com/en/article/k7wp49/human-organs-placenta-hand-brazil-singapore-arnold-putra
https://twitter.com/nauzilacampos/status/1496151518600482818
#Brief #TheMATTER