ปุ่มเล็กๆ แต่ทำหน้าที่ยิ่งใหญ่ Netflix เปิดเผยว่านับตั้งแต่เปิดตัวปุ่ม ‘Skip Intro’ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีการกดไปแล้ว 136 ล้านครั้ง ช่วยประหยัดเวลาไปได้กว่า 195 ปี!
Skip Intro น่าจะเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่หลายคนคุ้นเคย เพราะมันช่วยให้เราสามารถกดข้ามเพลงหรือฉากเปิดซีรีส์ไปยังส่วนเนื้อเรื่องแบบพอดิบพอดี โดยไม่ต้องมากะระยะเอง Netflix เปิดเผยว่าพวกเขาได้ไอเดียการสร้างฟีเจอร์เจ้าประโยชน์นี้มาจากปุ่มข้ามและถอยหลังเวลาในหนังอย่างละ 10 วินาที
สตรีมมิ่งชื่อดังให้เหตุผลว่า การที่มีปุ่มถอยหลัง 10 วินาทีทำให้เราสามารถกลับไปเก็บรายละเอียดเนื้อหาที่เราอาจจะเผลอใจลอยแล้วพลาดไป แต่ในกรณีข้ามไปข้างหน้า 10 นาที… อาจถูกใช้ประโยชน์เมื่อต้องการข้ามฉากเปิดหนังที่ไม่น่าสนใจ แต่นอกจากนี้มีประโยชน์อย่างอื่นไหม? ทาง Netflix ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เช่นกัน
ข้อจำกัดของฟีเจอร์ข้ามเวลา 10 วินาทีคือมันจำกัดเวลาแค่ 10 วินาที นั่นหมายความว่าผู้ใช้อาจต้องกดอีกหลายครั้งกว่าจะเข้าสู่เนื้อเรื่อง หรือหากเลื่อนเนื้อหาเองก็อาจจะเลยไปหรือยังไม่ถึงดี ประกอบกับการวิเคราะห์ของ Netflix พบว่า จากระยะเวลาดูเนื้อหาทั้งหมด มี 15% เลื่อนฉากในช่วง 5 นาทีแรก นั่นหมายความว่ามีผู้ชมจำนวนมากไม่ต้องการเสียเวลาไปกับการดูฉากเปิด ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ Netflix จึงตัดสินใจตั้งปุ่ม Skip Intro มาทำหน้าที่โดยเฉพาะเสียเลย
หลังจากได้ข้อสรุป Netflix ระดมความคิดเพื่อหาชื่อที่เหมาะสมโดยมีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น‘Jump Past Credits’, ‘Skip Credits’, ‘Jump Ahead’, ‘Skip Intro’ รวมถึงอะไรง่ายๆ แบบ ‘Skip’ แต่สุดท้ายก็ได้ชื่อที่เหมาะสมที่สุดคือ Skip Intro นั่นเอง (แล้วถ้าไม่ใช่ชื่อนี้คุณคิดว่าชื่อไหนดีไม่แพ้กันนะ?)
Netflix เริ่มทดลองใช้งานปุ่มนี้กับผู้ใช้บางส่วนในปี 2017 และเปิดตัวใช้อย่างเป็นทางการในปีเดียวกัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันนี้ ผ่านมา 5 ปี มีคนกดปุ่ม Skip Intro ไปแล้ว 136 ล้านครั้ง และช่วยประหยัดเวลาชาวโลกไปได้กว่า 195 ปีเลยทีเดียว
อ้างอิงจาก
https://www.blognone.com/node/127716
https://about.netflix.com/en/news/looking-back-on-the-origin-of-skip-intro-five-years-later
#Brief #TheMATTER