ในช่วงนี้ชาว TikTok พากันเต้นเพลง GAL – OHAYO feat. Shake Pepper & Yvngboi P จนทำให้มีเพลงในเวอร์ชั่นภาษาเกาหลีออกมา แน่นอนว่าเพลงนี้ก็ดังเป็นพลุแตกไม่แพ้เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะมาจากประเทศใดก็มารวมใจกันเต้นเพลงนี้ทำให้หลายคนพากันสงสัยว่า ‘แกล’ และท่าเต้น ‘แกลพีซ’ นั้นคืออะไร มีที่มาจากไหนกันแน่
จากเนื้อเพลงที่พูดถึง ‘แกล’ หรือที่อ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ‘กยาหรุ’ เป็นสไตล์การแต่งตัวและแต่งหน้าแบบหนึ่งของสาวญี่ปุ่นที่เคยฮิตในช่วงยุค 90s กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เลยกลายเป็นผู้คนเริ่มแต่งหน้า แต่งตัวในสไตล์สาวแกลกันมากขึ้น บางคนก็เอาสไตล์สาวแกลมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย กลายเป็นสไตล์แบบ ‘นีโอ-แกล’ ที่สามารถแต่งในชีวิตประจำวันได้
รวมไปถึงท่าถ่ายรูป ‘แกลพีซ’ ที่เป็นการชูสองนิ้วก็กลับมาอีกครั้งเพราะไอดอลเกาหลีหลายคนทำท่าแกลพีซขณะถ่ายรูป แต่เพิ่มความน่ารักขึ้นด้วยการชูสองนิ้วแบบหงายฝ่ามือขึ้น และยื่นเข้าหากล้อง ทำให้ท่าแกลพีซกลายเป็นท่าเต้นที่ขาดไม่ได้ในเพลงนี้
แรกเริ่มเดิมที สาวแกลเกิดมาจากกลุ่มเด็กสาวที่ต้องการจะแหกค่านิยม ‘ความสวย’ ของสังคมญี่ปุ่นที่จะต้องมีผิวขาวราวหิมะ ผมสีดำยาวสุขภาพดี แต่งหน้าเบาบางจนเหมือนไม่ได้แต่งหน้า และแต่งตัวเรียบร้อย
สาวแกลจึงทำทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับค่านิยมนั้น พวกเธอจะทำให้ผิวกลายเป็นสีแทน ทำสีผมให้อ่อนที่สุด แต่งหน้าจัด ใส่กระโปรงสั้นกับถุงเท้าแบบหลวม และสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพง เพื่อแสดงออกว่าพวกเธอไม่พอใจค่านิยมเหล่านั้น
แต่การจะอยู่ในหมู่สาวแกลด้วยกันนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นการทำสีผม เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้า กระเป๋าราคาแพง สาวแกลส่วนใหญ่จึงเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ และเรียนอยู่ในโรงเรียนเอกชนที่มีเครื่องแบบนักเรียนที่แตกต่างจากโรงเรียนรัฐบาล ที่ในยุคนั้นยังใส่เครื่องแบบนักเรียนที่เป็นเสื้อปกกะลาสีกันอยู่
ด้วยความที่เด็กสาวจากโรงเรียนเอกชนมักจะเป็นผู้นำแฟชั่นอยู่แล้ว ทำให้สไตล์สาวแกลได้รับความสนใจจากเด็กสาววัยเดียวกันมากขึ้น ไม่ว่าใครก็อยากแต่งตามพวกเธอ จนย่านชิบูย่าเต็มไปด้วยเด็กสาวที่แต่งตัวสไตล์สาวแกล
ยิ่งเมื่อห้างร้านในย่านชิบูย่าเริ่มเห็นเทรนด์ ก็พากันหาเสื้อผ้าสไตล์สาวแกลมาขายกันเต็มไปหมด นิตยสารสำหรับวัยรุ่นเริ่มขึ้นปกด้วยนางแบบสาวแกล ทำให้การแต่งตัวสไตล์สาวแกลกลายเป็นเทรนด์ที่ยิ่งใหญ่มากในยุค 90s และในยุค 2000s ก็พัฒนาไปเป็นสาวแกลอีกหลายแบบหลายสไตล์
อ้างอิงข้อมูลจาก