เพราะการปวดท้องและอาการอื่นๆ ที่ตามมาจากการมีประจำเดือนไม่ใช่เรื่องที่ทนได้ง่ายๆ หลายบริษัทจึงเริ่มออกนโยบายให้ลาหยุดในวันที่มีประจำเดือนได้
นโยบายให้ลาหยุดเมื่อมีประจำเดือน หรือ Menstrual Leave คือนโยบายที่อนุญาตให้พนักงาน (ทั้งผู้หญิง ทรานส์เจนเดอร์ นอนไบนารี หรือแรงงานทุกคนที่มีประจำเดือน) ที่เจ็บป่วยจากการมีประจำเดือนสามารถทำงานจากที่อื่นที่ไม่ใช่ออฟฟิศได้ ตลอดจนสามารถลาได้แบบไม่โดนหักเงินเดือน
การอนุญาตให้หยุดในวันที่มีประจำเดือนจะส่งผลให้กลุ่มแรงงานที่มีประจำเดือนได้รับประโยชน์มากขึ้น เช่น สามารถพักผ่อนได้เมื่อต้องการ มีความสุขมากขึ้น และโปรดัคทีฟในการทำงานมากขึ้น ตลอดจนรู้สึกว่าสามารถใช้ชีวิตในตลาดแรงงานได้ง่ายมากขึ้น
จริงๆ แล้วการลาหยุดเพราะประจำเดือนเกิดขึ้นมานานกว่าศตวรรษแล้วทั่วโลก เช่น สหภาพโซเวียตที่ออกนโยบายในปี 2465 ประเทศญี่ปุ่นในปี 2490 หรืออินโดนีเซียในปี 2491 เป็นต้น แต่ก็ยังไม่ใช่จำนวนที่มากนักหากเทียบกับทั้งโลก แต่อย่างไรก็ดี บางบริษัททั่วโลกก็เริ่มเดินหน้าเพิ่มสวัสดิการนี้แล้ว
แน่นอนว่าการที่โลกเริ่มความสำคัญกับการให้ลาในวันที่มีประจำเดือน ย่อมนำมาสู่คนที่เห็นต่างออกไป โดยประเด็นสำคัญที่คนเห็นต่างเหล่านี้โต้แย้งคือ ผลประโยชน์ที่ไม่เท่าเทียม และการอนุญาตให้มีวันลาหยุดประจำเดือนอาจยิ่งสร้างมลทินให้กับคนที่มีประจำเดือน รวมถึงทำให้พนักงานรู้สึกว่าเกิดความไม่เท่าเทียมทางเพศและเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน
แต่การทำงานทั้งๆ ที่เจ็บป่วยอยู่ ก็ไม่เป็นผลดีกับบริษัท เนื่องจากการทำงานในขณะที่เจ็บป่วยอันเป็นผลพวงจากประจำเดือน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการผลิตของบริษัทที่จะลดลงไป ซึ่งนี่ก็ถือเป็นปัญหาในการทำงาน
ประเทศออสเตรเลียคือหนึ่งในประเทศที่เห็นความสำคัญของประเด็นนี้ ด้วยความที่ตลาดแรงงานของประเทศกำลังหดตัวลงเพราะโรคระบาด หลายๆ บริษัทจึงเริ่มหาวิธีรักษาพนักงานที่มีความสามารถของตัวเองไว้ และเสนอสวัสดิการลาเมื่อมีประจำเดือนที่ช่วยให้พนักงานไม่หนีไปไหน
แต่บางบริษัทก็มีสวัสดิการแบบนี้มาสักพักแล้ว เช่น Victorian Women’s Trust องค์กรความเท่าเทียมทางเพศในเมลเบิร์น อนุญาตให้มีวันลาเนื่องจากประจำเดือน 12 วันตั้งแต่ปี 2559 โดยเกิดจากการทำแบบสำรวจผู้คนประมาณ 3,500 คน และค้นพบว่าความกังวลอันดับแรกของผู้ตอบแบบสอบถาม 58% คือ การหาเวลาเพื่อพักจากอาการเจ็บป่วย
การที่บริษัทในออสเตรเลียเริ่มมีนโยบายอนุญาตให้ลาในวันที่มีประจำเดือน อาจสร้างแรงสะเทือนไปสู่ประเทศอื่นๆ รอบโลก โดยเฉพาะในยุคที่แรงงานรุ่นใหม่เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นมากขึ้น ตลอดจนวงการธุรกิจที่ก็กำลังขาดแคลนแรงงาน
หลายบริษัททั่วโลก (รวมถึงในไทยเอง) อาจต้องเริ่มคิดถึงความจำเป็นของนโยบายลักษณะนี้ให้มากขึ้น เพราะหากนายจ้างไม่จัดสวัสดิการที่เหมาะสมกับผู้ที่มีประจำเดือน พนักงานที่มีอาการเจ็บป่วยจากสถานการณ์นี้อาจต้องหล่นหายไปจากตลาดแรงงาน
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/…/20220426-could-menstrual-leave…
https://time.com/6105254/menstrual-leave-policies/
https://edition.cnn.com/…/period-leave-asia…/index.html
#Brief #TheMATTER