ประเพณีที่มีมานาน ถ้าจะเปลี่ยนจริงๆ ก็เปลี่ยนแปลงได้ เรื่องนี้ ศาลรัฐธรรมนูญอิตาลีได้แสดงให้เห็นแล้ว หลังตัดสินว่า เด็กแรกเกิดไม่ควรถูกบังคับใช้นามสกุลพ่อเพียงอย่างเดียว ดังที่เคยทำกันมา แต่ควรจะใช้ทั้งนามสกุลของพ่อและแม่รวมกัน
ศาลรัฐธรรมนูญอิตาลีตัดสินว่า การให้เด็กเกิดใหม่ใช้นามสกุลพ่อเพียงอย่างเดียว ถือว่าละเมิดหลักการของรัฐธรรมนูญ และเป็นการ ‘เลือกปฏิบัติและเป็นอันตรายต่ออัตลักษณ์’ ของตัวเด็ก เพราะนามสกุลถือว่าเป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐานของอัตลักษณ์ของเด็ก
วิธีแก้ที่ศาลเสนอคือ เด็กควรจะต้องมีทั้งนามสกุลทั้งของพ่อและแม่ ซึ่งต้องตกลงกันว่าจะให้นามสกุลของใครขึ้นก่อน หรือถ้าตกลงกันแล้วเรียบร้อย ก็อาจจะใช้นามสกุลของแม่ของพ่ออย่างเดียวได้ โดยจะบังคับใช้กับเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ทั้งที่จดทะเบียนสมรสและยังไม่ได้จดทะเบียน รวมถึงบุตรบุญธรรมด้วย
คำตัดสินนี้มีที่มาจากคดีหนึ่งที่ยื่นฟ้องโดยครอบครัวจากแคว้นบราซีลีคาตา ที่มีลูกอยู่แล้ว 2 คนที่ใช้นามสกุลแม่ เพราะพ่อเพิ่งจะมาจดทะเบียนอย่างถูกต้องทางกฎหมายในภายหลัง
แต่ปรากฏว่า พอจะมีลูกอีกคน กฎหมายก็บังคับให้ใช้นามสกุลพ่อ ซึ่งพ่อแม่ไม่ต้องการ เพราะอยากให้ลูกทั้ง 3 คนมีนามสกุลเหมือนกัน รวมถึงไม่อยากให้ลูกคนโตทั้ง 2 คนเปลี่ยนนามสกุลด้วย เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่กำหนด ‘อัตลักษณ์ส่วนบุคคล’ ไปแล้ว จึงได้นำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาล
หลังจากมีคำตัดสิน ลำดับต่อไปรัฐสภาก็จะต้องออกกฎหมายให้สอดคล้องกัน โดย เอเลนา โบเนตตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงครอบครัวและความเท่าเทียมทางโอกาส ก็เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนคำตัดสินนี้ของศาลรัฐธรรมนูญ
โบเนตตีระบุว่า “เราจะต้องกำหนดรายละเอียดให้กับ [คำตัดสินนี้] ต่อไป และมันก็เป็นเรื่องสำคัญและงานที่เร่งด่วนที่ฝ่ายการเมืองต้องทำ” พร้อมย้ำว่า นี่จะถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของสิทธิที่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิงในประเทศ
อ้างอิงจาก
https://www.washingtonpost.com/world/2022/04/28/italy-surname-children-mother-father-court/