ตั้งแต่มกราคม 2559-กันยายน 2564 มีคนเกือบ 27,000 รายเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในแคนาดา และรัฐบริติชโคลัมเบียเป็นรัฐที่อัตราการตายเพราะใช้ยาเสพติดเกินขนาดสูงที่สุด โดยปี 2564 เพิ่งมีคนเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด 2,236 ราย
เพื่อต่อสู้กับวิกฤตการใช้ยาเกินขนาด ล่าสุด ทางรัฐบริติชโคลัมเบีย แคนาดา เพิ่งประกาศทดลองให้การครอบครองโคเคน, ยาอี (MDMA), ยาไอซ์ (Methamphetamine), และ ยาระงับปวดโอปิออยด์ (Opioids) ในปริมาณเล็กน้อย ‘ไม่ผิดกฎหมาย’
การทดลองนี้จะกินเวลาทั้งหมด 3 ปี เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 31 มกราคม 2566 ถึง 31 มกราคม 2569 ซึ่งกฎหมายนี้ระบุว่า ประชาชนอายุมากกว่า 18 ปีสามารถครอบครองยาเสพติดได้ไม่เกิน 2.5 กรัม และหากพบว่าครอบครองสารเสพติดไว้ใช้งานส่วนตัว เขาเหล่านั้นจะไม่ถูกจับ ไม่ถูกตั้งข้อหา ไม่ถูกยึดยา และไม่ถูกส่งเข้าไปบำบัด แต่จะถูกเสนอให้เข้ารับบริการทางสุขภาพและสังคมแทน
อย่างไรก็ดี กฎหมายใหม่นี้จะไม่มีผลบังคับใช้ในโรงเรียน สนามบิน และในกองกำลังติดอาวุธ และการค้ายา ผลิต รวมทั้งแจกจำหน่ายก็ยังคงผิดกฎหมายเช่นเดิม
นโยบายนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการต่อสู้กับวิกฤตการใช้ยาเกินขนาด โดยเจ้าหน้าที่รัฐหวังว่าการยกเลิกบทลงโทษสำหรับผู้ที่ครอบครองยาเสพติดไว้ใช้ส่วนตัว จะช่วยลดการตีตรา และทำให้ผู้ติดยาเสพติดขอความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น ทั้งยังอาจลดผลกระทบต่อชุมชนของคนที่ไม่ใช่คนผิวขาว เพราะบ่อยครั้ง คนเหล่านี้มักตกเป็นเป้าหมายในคดียาเสพติด
หากการทดลองนี้ได้ผล กฎหมายลักษณะนี้อาจขยายไปทั่วแคนาดา เพราะรัฐอื่นๆ ในแคนาดาก็กำลังเดินหน้าทำให้การครอบครองยาเสพติดลักษณะนี้ไม่ผิดกฎหมายเช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.vice.com/en/article/bvnwew/cocaine-british-columbia
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-61657095
https://www.washingtonpost.com/world/2022/05/31/british-columbia-decriminalize-cocaine-opioids-meth/