เวลา 22.43 น. ของวันนี้ (2 ส.ค. 2565) ตามเวลาท้องถิ่นไต้หวัน ล้อเครื่องบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ เที่ยวบิน SPAR19 ที่พา ‘แนนซี เพโลซี’ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มาเยือนเอเชีย ก็แตะถึงพื้นสนามบินไทเปซงซานของไต้หวันแล้ว นับเป็นการเดินทางเยือนนอกกำหนดการเดิม เปิดฉากความตึงเครียดจีน–สหรัฐฯ ครั้งใหม่ที่อาจไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน
ก่อนหน้าที่เพโลซีจะเดินทางมาถึงไม่กี่นาที ยังปรากฏว่า ‘Taipei 101’ อาคารที่สูงที่สุดของไต้หวัน แสดงข้อความบนตึกว่า “ยินดีต้อนรับสู่ไต้หวัน,” “ประธานสภาฯ เพโลซี” และ “ไต้หวัน (หัวใจ) สหรัฐฯ” ด้วย แม้จะไม่มีการยืนยันในกำหนดการอย่างเป็นทางการก็ตาม
ต่อมาไม่นานหลังจากที่เดินทางถึง เพโลซีได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า “การมาเยือนไต้หวันของผู้แทนคองเกรสของเรา ถือเป็นการให้เกียรติแด่การยึดมั่นอย่างไม่เสื่อมคลายของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนประชาธิปไตยอันเบ่งบานของไต้หวัน”
แถลงการณ์ย้ำว่า “การที่สหรัฐฯ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชน 23 ล้านคนของไต้หวันมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย เมื่อโลกต้องเผชิญตัวเลือกระหว่างเผด็จการและประชาธิปไตย” ขณะเดียวกัน เพโลซีเผยว่า การมาเยือนในครั้งนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ ในเรื่องไต้หวันแต่อย่างใด
การเยือนไต้หวันของเพโลซี ซึ่งมีศักดิ์ศรีเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ในลำดับสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นอันดับที่ 2 ต่อจากรองประธานาธิบดี ถือเป็นการเดินทางมาไต้หวันครั้งแรกในรอบ 25 ปี ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ นับตั้งแต่การเยือนของ นิวต์ กิงริช ประธานสภาฯ สหรัฐฯ เมื่อปี 2540
การเดินทางครั้งนี้ยังถือเป็นเรื่องที่จีน ซึ่งมองไต้หวันเป็นของจีน ยอมรับไม่ได้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ก็เตือนว่า กองทัพจีน “จะไม่อยู่เฉย” หากเพโลซีมาเยือนจริง
หรืออย่างเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2565 ที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยกหูคุยโทรศัพท์กับ สี จิ้นผิง ของจีน ประธานาธิบดีสีก็ถึงกับออกปากเตือนในประเด็นไต้หวันว่า “ใครที่เล่นกับไฟ ก็จะต้องพินาศด้วยไฟนั้น หวังว่าสหรัฐฯ จะตาสว่างในเรื่องนี้” พร้อมย้ำว่า สหรัฐฯ ควรจะยึดถือตามหลักนโยบาย ‘จีนเดียว’ และไม่ควรเข้ามาแทรกแซง
ในช่วงวันที่ผ่านมา มีสื่อต่างประเทศหลายแห่งที่รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า เพโลซีจะเดินทางมาไต้หวันจริง และตลอดทั้งวันนี้ ก็มีรายงานว่า เรือรบและเครื่องบินรบจีนหลายลำได้เดินทางเข้ามาประชิดเส้นพรมแดนในช่องแคบไต้หวัน ขณะที่เรือรบสหรัฐฯ 4 ลำ ถูกย้ายมาประจำการในน่านน้ำทางตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งสหรัฐฯ อ้างว่า เป็นการประจำการตามปกติ
คงยังไม่มีคำตอบว่าการเยือนในครั้งนี้จะมีผลลัพธ์ไปในทิศทางใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทั่วโลกต่างให้ความสนใจการเดินทางครั้งนี้ จนทำให้ไฟลต์ SPAR19 กลายเป็นเที่ยวบินที่มีคนจับตามองมากที่สุดในโลกตอนนี้ กระทั่งทำให้เว็บไซต์ Flightradar24 ล่มไปชั่วคราวเลยทีเดียว
อ้างอิงจาก
https://www.speaker.gov/newsroom/8222-2
https://edition.cnn.com/2022/07/28/politics/joe-biden-xi-jinping-call/index.html