‘บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ’ ชาวกะเหรี่ยงที่ต่อสู้เพื่อปกป้องพื้นที่บางกลอยและหายสาบสูญไปเมื่อปี 2557 เวลาผ่านมาแล้ว 8 ปี ล่าสุด อัยการสูงสุดลงนามส่งฟ้อง ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวกรวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว
วันนี้ (15 สิงหาคม) มีเอกสารจากสำนักงานอัยการสูงสุด ส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงนามโดยนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ยืนยันว่า อัยการการสูงสุดลงนามในความเห็นสั่งฟ้อง ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นข้อหา ‘ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว’ ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565
ข้อหาที่มีคำสั่งฟ้องได้แก่
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่ตามที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำไว้
- ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจโดยให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง
- ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
- ร่วมกันทุจริตหรืออำพรางคดี กระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ดี อัยการสั่งไม่ฟ้องชัยวัฒน์และพวกในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะมองว่าในขณะที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐ และสั่งไม่ฟ้องเอกชนอีก 1 คนในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน
พอละจี หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 แล้วอีก 5 ปีต่อมา DSIได้ เปิดเผยหลักฐานชิ้นสำคัญ คือ ชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์ ที่ถูกพบในถัง 200 ลิตร ที่จมอยู่ในแหล่งน้ำใต้สะพานแขวนของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และได้รับการยืนยันจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ว่าเป็น ชิ้นส่วนกะโหลกของบิลลี่
ถือเป็นการใช้เวลายาวนานถึง 8 ปี กว่าที่คดีของนักเรียกร้องสิทธิเพื่อที่อยู่อาศัย จะกลายมาเป็นคดีฆาตกรรมได้