การสวรรคตของควีนเอลิซาเบธที่ 2 นำมาสู่การถกเถียงว่าความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์และเหล่าประเทศในเครือจักรภพว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ล่าสุด นายกรัฐมนตรีประเทศแอนติกาและบาร์บูดา หนึ่งในประเทศที่มีกษัตริย์อังกฤษเป็นประมุข เพิ่งประกาศว่ามีแผนให้ประชาชนลงประชามติว่าจะถอดกษัตริย์อังกฤษออกจากตำแหน่งประมุขแห่งรัฐหรือไม่
ประเทศแอนติกาและบาร์บูดา เป็นประเทศเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนตะวันออก ได้รับอิสรภาพจากสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 1981 แต่ยังคงมีสถาบันอังกฤษเป็นประมุขแห่งรัฐอยู่
แกสตัน บราวน์ (Gaston Browne) นายกรัฐมนตรีแอนติกาและบาร์บูดา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ITV News ว่าจะมีประชามติให้ประชาชนลงคะแนนว่าต้องการถอดกษัตริย์อังกฤษออกจากตำแหน่งประมุขแห่งรัฐหรือไม่ โดยประชามตินี้จะเกิดขึ้นภายใน 3 ปี
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีประชามติให้ประชาชนได้ตัดสินใจ นี่ไม่ใช่การกระทำที่เป็นปรปักษ์ ..แต่เป็นก้าวสุด้ายที่จะทำให้เราได้อิสรภาพ และทำให้เรากลายเป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง” บราวน์ กล่าว
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีแห่งแอนติกาและบาร์บูดาย้ำว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองนี้ไม่ใช่การกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อสหราชอาณาจักรแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ทั้งไม่ได้หมายความว่าประเทศจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกเครือจักรภพด้วย
บราวน์เสนอสิ่งนี้ทันทีหลังการยืนยันว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ และจะกลายเป็นประมุขของรัฐ ซึ่งขณะนี้ พระเจ้าชาร์ลส์ดำรงตำแหน่งเป็นประมุขของรัฐใน 14 ประเทศ ได้แก่ แอนติกาและบาร์บูดา, ออสเตรเลีย, บาฮามาส, เบลีซ, แคนาดา, เกรนาดา, จาเมกา, นิวซีแลนด์, ปาปัว นิว กีนี, เซนต์คิตส์และเนวิส, เซนต์ลูเซีย, เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์, ตูวาลู และหมู่เกาะโซโลมอน
จริงๆ แล้วการถกเถียงกันว่ากษัตริย์จะยังดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศอยู่หรือไม่ เป็นการถกเถียงที่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนควีนเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ประเทศบาร์เบโดสเพิ่งตัดสินใจยกเลิกสถานะควีนเอลิซาเบธที่ 2 จากการเป็นประมุขของรัฐและเปลี่ยนตัวเองเป็นประเทศสาธารณรัฐ
อ้างอิงจาก
https://www.aljazeera.com/news/2022/9/11/antigua-and-barbuda-plan-vote-to-become-republic