หลังจากวันนี้เป็นต้นไป (1 ต.ค. 65) ระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับโรค COVID-19 จะเปลี่ยนแปลงไปหลายประการ ขนานไปกับสถานการณ์การระบาดของโรคที่ค่อยๆ คลี่คลายและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
เชื่อว่าใครหลายคนน่าจะยังสับสนว่ามาตรการที่เปลี่ยนแปลงไปมีอะไรบ้าง สำหรับใครที่สงสัย The MATTER รวบรวมสิ่งที่จะเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมาให้แล้ว ดังนี้
#ยกเลิกพรกฉุกเฉิน
ประเทศไทยบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคมาตั้งแต่ 25 มี.ค. 63 หลังจากอยู่ภายใต้กฎหมายนี้มานานกว่า 2 ปีครึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้สิ้นสุดลงแล้วในวันนี้
การยกเลิกนี้เป็นผลพวงมาจากการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 หรือ ศบค. ที่มีมติยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งบรรดาข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
โฆษก ศบค. ให้เหตุผลของการประกาศยกเลิกว่า เป็นเพราะสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลดลง รวมถึงประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมได้ตามปกติแล้ว จึงสมควรแก่การคลี่คลาย
#ยุบศบค
การประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีผลให้ยุบ ศบค.ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา ศบค. มีหน้าที่บัญชาการและกำหนดมาตรการควบคุมการระบาดของโรค
การประกาศยุบ ศบค. จะส่งผลให้ยกเลิกการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยหนักจากการติด COVID-19 ทั้งนี้ หลังจากยุบ ศบค. แล้ว อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข จะเป็นผู้กำกับดูแลตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ
#เปลี่ยนสถานะเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
วันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา อนุทินแถลงข่าวการป้องกันควบคุมโรค COVID-19 หลังการยุบ ศบค. โดยประกาศว่าปรับสถานะโรค COVID-19 จาก ‘โรคติดต่ออันตราย’ เป็น ‘โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง’
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขให้เหตุผลว่า เพราะไทยกลับเข้าสู่สภาวะใกล้เคียงปกติแล้ว และประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการสถานการณ์โรคระบาดจนได้รับการยอมรับจากระดับโลก ประชาชนได้วัคซีนแล้วและมีภูมิคุ้มกันโรคเพิ่มขึ้น จึงสมควรปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
#ยกเลิกโชว์เอกสารวัคซีนและผลตรวจATKก่อนเข้าประเทศ
นักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยไม่ต้องแสดงเอกสารวัคซีน หรือผลการตรวจ ATK ของโรค COVID-19 อีกต่อไป นอกจากนี้ยังยกเลิกการสุ่มตรวจสอบบันทึกการฉีดวัคซีน COVID-19 อีกด้วย
#ผู้ติดเชื้ออาการน้อยให้เน้นมาตรการDMHT
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่อาการน้อยและไม่แสดงอาการให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHT (D : distancing, M : mask wearing, H : hand washing, T : testing) กล่าวคือ การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ และตรวจหาเชื้อ อย่างเคร่งครัด 5 วัน อย่างไรก็ดี อนุทินในฐานะ รมว.สาธารณสุขแนะนำว่าประชาชนยังควรป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม เช่น สวมหน้ากาก ล้างมือ และตรวจ ATK เมื่อมีอาการ
แนวทางการรักษา เบื้องต้น มีดังนี้
– หากไม่มีอาการ ให้รักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และ DMHT นาน 5 วัน
– หากอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยง โรคร่วม หรือปอดอักเสบเล็กน้อย หรือผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย–ปานกลาง ให้พิจารณาตามดุลพินิจแพทย์ เช่น ให้ยาต้านไวรัส เป็นต้น
– หากมีอาการ แต่อาการไม่รุนแรง อาจให้ยาฟ้าทะลายโจร หรือฟาวิพิราเวียร์ โดยให้เร็วที่สุดเพื่อลดอาการ
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/59520
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/59680
https://www.bbc.com/thai/articles/c3gmre7gppjo
https://www.thaipost.net/covid-19-news/225831/
#Brief #TheMATTER