ตามที่หลายคนได้ยินข่าว ว่าภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปีนี้ ทิ้งท้ายด้วยเหตุวุ่นวาย ด้วยเหตุการณ์ที่ ‘เค ร้อยล้าน’ หรือ คเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา ก่อเหตุเข้าประชิดตัว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ตุลาคม)
พร้อมตะโกนด้วยถ้อยคำว่า “พี่น้องที่เคารพรัก กูมีระเบิด!” สร้างความโกลาหลยกใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ปรากฏเป็นคลิปและถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ แต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่ไม่ได้มีผู้บาดเจ็บ
โดยในภายหลัง เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาลหุโทษ มาตรา 384 ซึ่งระบุว่า ผู้ใดแกล้ง บอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงข้อหาอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ยังคงมีประเด็นถกเถียงว่าโทษลักษณะนี้ เพียงพอต่อการกระทำที่อาจจะนำไปสู่การบาดเจ็บในคนหมู่มากหรือไม่? The MATTER มีโอกาสพูดคุยกับผู้ที่อยู่ในที่เหตุการณ์ ทั้งที่ ‘เห็น’ และ ‘ไม่เห็น’ แต่ประสบกับความ ‘ไม่ปลอดภัย’ เช่นเดียวกัน
เกิดอะไรขึ้นบ้าง
“คนออกันอยู่เยอะมาก คนอยู่รอบนอกไม่รู้หรอกมี หรือไม่มีระเบิด ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แต่คนก็วิ่งกัน ถ้าใครเคยดูคลิปสึนามิที่คนวิ่งหนี คืออารมณ์นั้นเลย ไม่สนว่าจะเหยียบใครขอแค่เอาตัวรอด”
โอ๊ต หนึ่งในคนทำงานประจำบูธก้าวไกล งานมหกรรมหนังสือ เล่าถึงความกลหนที่เกิดในเสี้ยววินาทีนั้น
สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุ จัดอยู่ระหว่างบูธของพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ซึ่งจะมีคนแวะเวียนมาตลอด โดยช่วงก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับคนที่จะต่อแถวร่วมกิจกรรมแจกลายเซ็นของธนาธร
แล้วกิจกรรมก็เริ่มขึ้นตามปกติ นักการเมืองคนดังกำลังเซ็นหนังสือ และพูดคุยกับคนที่มาร่วมกิจกรรม โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดคิดตามที่ปรากฏเป็นข่าว
“เขา (เค ร้อยล้าน) ก็เนียนมาซื้อหนังสือในบูธ แล้วก็รอคิว เข้าใจว่าพอใกล้ถึงเขาก็พุ่งล็อกคอ การ์ดของที่จัดงานก็มากระชากออก”
โอ๊ต เล่าต่อว่า ตอนนั้นอยู่ห่างออกจากส่วนจัดกิจกรรมเล็กน้อย จึงไม่ทันได้เห็นจังหวะเกิดเหตุ แต่ได้ยินเสียงโหวกเหวกขึ้น ก่อนที่ผู้คนจะกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง
“ในหัวไม่ได้คิดถึงจลาจล แต่มันอัตโนมัติ พอเห็นคนวิ่งแล้วมันต้องวิ่งตาม คนในบูธยังงงแล้ววิ่งตามกันเลย”
ถามหาความปลอดภัยในชีวิต
ในฐานะคนหนึ่งที่ทำงานร่วมกับคนที่มีชื่อเสียง ท่ามกลางบรรยากาศสังคมที่พร้อมจะเกิดความวุ่นวายได้อยู่ตลอด นี่จึงเป็นเรื่องที่เคยถูกพูดถึงมาก่อน
“เราก็คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้แน่ๆ กับนักการเมืองหลายคน ก็มีคนคอยดูพี่เอก (ธนาธร) แต่เราก็ไม่อยากให้กั้นคน เพราะมันคืองานหนังสือ มันเหมือนงานครอบครัว งานที่เต็มไปด้วยความฝันของผู้คน”
แม้จะเตรียมใจไว้บ้าง แต่ก็สร้างความกังวลไม่น้อย “มันแพนิกนะ มันเกิดเรื่องแบบนี้บ่อย ไม่ใช่แค่กับเค ร้อยล้าน ไม่มากก็น้อยมันมีความวิตกกังวล”
เหตุการณ์ทั้งหมดทำให้อดไม่ได้ที่โอ๊ตจะนึกถึงเหตุทำร้ายร่างกาย ศรีสุวรรณ จรรยา เมื่อไม่นานมานี้ เพราะสะท้อนปัญหาสังคม 2 สิ่งที่คล้ายคลึงกัน อย่างแรกคือ “การปล่อยให้ศาลเตี้ยทำงาน” ร่วมกับการถามหา “ความปลอดภัยในชีวิต” ที่รัฐควรเป็นผู้ให้ความมั่นใจ
นอกจากนี้ เหตุครั้งนี้ยังเป็นบทเรียนสำคัญให้กับการจัดกิจกรรมใหญ่อื่นๆ ถึงเรื่องการรับมือเหตุไม่คาดฝันในลักษณะเดียวกัน
อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกราดยิง
ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเท่านั้นที่จะอกสั่นขวัญแขวน แต่ขยับออกมาหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่งาน ก็เลี่ยงผลกระทบไม่ได้ อย่างที่เกิดขึ้นกับ บอตอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นอีกคนที่กำลังนั่งพักอยู่ภายนอกอาคารจัดงาน
“จู่ๆ เห็นคนวิ่งแตกตื่นออกมาจากฮอลล์ เยอะมาก วิ่งต่อๆ กันแบบงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกคิดว่ามีคนดังมา แต่พอมีคนวิ่งออกมาทุกวัย เลยรู้ว่าไม่ปกติ”
ก่อนที่เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า จะแจ้งว่าสถานการณ์เป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ยังมีการวิพากษ์ว่า ระบบการกระจายเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม เนื่องจากผู้คนที่อยู่ห่างออกมาจากภายในพื้นที่จัดงาน แทบจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดเลย “ต้องเข้าไปเช็คในทวิตเตอร์ถึงรู้”
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้คนยิ่งตระหนก เป็นเพราะหลายคนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุกราดยิงที่ยังไม่ทันพ้นเดือน ซึ่งบอตอก็เห็นด้วยกับประเด็นนี้
นั่นทำให้จากความตื่นตกใจ แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะมองว่าการกระทำของ เค ร้อยล้าน เป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก มีการก่อเหตุซ้ำ โดยที่ไม่มีการรับมืออย่างเหมาะสม
#งานหนังสือ #เคร้อยล้าน #TheMATTER