นิวซีแลนด์เพิ่งผ่านกฎหมายใหม่ วันนี้ (13 ธันวาคม) ห้ามประชาชนที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ซื้อบุหรี่ โดยมีผลตลอดชีวิต หวังจำกัดไม่ให้คนรุ่นใหม่เริ่มต้นสูบบุหรี่ และเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้นิวซีแลนด์ ‘ปลอดบุหรี่’ ภายในปี 2568
นั่นหมายความว่า อายุขั้นต่ำของคนที่จะซื้อบุหรี่ได้ตามกฎหมาย จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ รายปี รุ่นสุดท้ายที่จะซื้อบุหรี่ได้คือคนที่เกิดในปี 2551 ซึ่งตอนนี้มีอายุ 14 ปี แปลว่า ในอีก 50 ปีข้างหน้า คนที่อายุ 64 ปี ก็ยังจำเป็นต้องโชว์บัตรประชาชนเพื่อซื้อบุหรี่ ส่วนคนที่อายุน้อยกว่านั้น จะซื้อบุหรี่ไม่ได้เลยไปตลอดชีวิต
โดยหากฝ่าฝืนก็จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 150,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับใหม่นี้ ยังมีเป้าหมายในการลดปริมาณนิโคตินในบุหรี่ รวมถึงลดจำนวนร้านค้าปลีกที่จะได้รับอนุญาตให้ขายบุหรี่ด้วย สำหรับเป้าหมายในสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีร้านค้าที่ขายบุหรี่ประมาณ 6,000 แห่ง ก็จะลดให้เหลือแค่ 600 แห่ง
“กฎหมายฉบับนี้จะช่วยเร่งให้เกิดความก้าวหน้าไปสู่อนาคตที่ปราศจากบุหรี่” อาเยชา เวอร์รัล (Ayesha Verrall) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ กล่าวในแถลงการณ์
“คนเป็นพันๆ คน จะมีชีวิตยืนยาวขึ้น ใช้ชีวิตที่ถูกสุขภาวะมากขึ้น และระบบสาธารณสุขก็จะไม่ต้องเสียเงินถึง 5 พันล้านดอลลาร์ จากการที่ไม่ต้องรักษาโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เช่นมะเร็งประเภทต่างๆ หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และการตัดแขน–ขา”
อย่างไรก็ดี กฎหมายดังกล่าวจะไม่ได้จำกัดการขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด ซึ่งจากข้อมูลสถิติ ก็พบว่า ชาวนิวซีแลนด์หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น จากเดิมในปีที่แล้ว มีผู้สูบ 6.2% ก็เพิ่มขึ้นเป็น 8.3% ในปีนี้
ส่วนจำนวนผู้สูบบุหรี่ในนิวซีแลนด์ ข้อมูลล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน ชี้ว่า ลดลงเหลือเพียง 8% จากเดิมมี 9.4% ในปีที่แล้ว สถิติผู้สูบ ณ ตอนนี้ ถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่เคยมีการบันทึกมา โดยในปีที่ผ่านมา มีคนที่เลิกบุหรี่ทั้งหมด 56,000 คน
อ้างอิงจาก