ดวงดาวเป็นสิ่งที่มนุษย์เราชอบเฝ้ามองเสมอมา ถึงขนาดเปรียบดวงดาวเป็นเทพเจ้า ความโชคดี ความโชคร้ายบ้าง แล้วล่าสุด NASA เปิดเผยว่า เราอาจจะได้เห็นดาวหางดวงหนึ่ง ที่ใช้เวลานานกว่า 50,000 ปีในการเดินทางมาถึงโลก!
ดาวหาง คือ วัตถุบนฟ้าอย่างหนึ่ง ประกอบด้วยหิน น้ำแข็ง และแก๊สแข็งตัว และเมื่อมันลอยตัวเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ความร้อนของดวงอาทิตย์จะทำให้น้ำแข็งกลายเป็นไอ และเมื่อมันสะท้อนกับแสงอาทิตย์ เราก็จะมองเห็นเป็นหัวและหาง
สำหรับดาวหางดวงนี้มีชื่อว่า C/2022 E3 (ZTF) เป็นดาวหางที่มีแสงสีเขียวพุ่งออกมาเป็นหาง และคาดว่ามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 กิโลเมตร ทั้งยังมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ที่ผ่านด้านนอกของระบบสุริยะ เป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงต้องใช้เวลานานถึง 5 หมื่นปีในการเดินทางมาโคจรรอบโลกของเราอีกครั้ง
นักดาราศาสตร์จาก NASA เพิ่งค้นพบดาวหางดวงนี้เมื่อวันที่ 2 มีนาคมปีที่แล้ว โดยการใช้กล้องสนามกว้างของหน่วยงานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่มุ่งศึกษาระบบของท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยแสง (Zwicky Transient Facility) ในการสำรวจ ที่หอดูดาวพาโลมาร์ (Palomar) เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
“ดาวหาง C/2022 E3 (ZTF) จะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 12 มกราคม และเคลื่อนเข้าใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ..ซึ่งมนุษย์อาจจะมองเห็นมันได้ด้วยตาเปล่า หากท้องฟ้าไม่สว่างจนเกินไปจากแสงไฟของเมืองหรือดวงจันทร์” โทมัส พรินซ์ (Thomas Prince) ศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์แห่งสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียกล่าว
เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “ดาวหางดวงนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าโลกอย่างน้อยถึง 2,500 เท่า ..และมันจะมาเยือนระบบสุริยะอีกครั้งในอีก 50,000 ปีข้างหน้า แต่ก็มีโอกาสที่หลังจากการมาเยือนครั้งนี้ ดาวหางดวงนี้อาจจะถูกขับออกจากระบบสุริยะอย่างถาวร”
หลายคนอาจยังสงสัยว่าเราสามารถมองเห็นมันได้ด้วยตาเปล่าจริงๆ หรอ? พิสิฏฐ นิธิยานันท์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ ระบุว่า “ดาวหางจะสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง อาจเป็นไปได้ที่จะสามารถสังเกตเห็นดาวหางดวงนี้ด้วยตาเปล่าได้จางๆ ในท้องฟ้าที่มืด แต่เนื่องจากความสว่างของดาวหางเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และหลายครั้งที่ดาวหางมีความสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยอาจจะทำให้ไม่เพียงพอที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าได้”
อย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจถ้าอยากจะเห็นดาวหางดวงนี้จริงๆ คือ “ยังมีจังหวะนานหลายวันที่จะสังเกตเห็นผ่านกล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ 2023”
จากข้อมูลของ NASA ผู้สังเกตที่อยู่บริเวณซีกโลกเหนือ (รวมถึงประเทศไทย) จะสามารถเห็นดาวหางได้ในช่วงเช้ามืดของเดือนมกราคม จากนั้นดาวหางจะให้ผู้สังเกตในซีกโลกใต้ได้เห็นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
อ้างอิงจาก