เกรต้า ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) ชื่อของนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมวัย 20 ปีที่ใครๆ ก็รู้จัก กลายมาเป็นประเด็นอีกครั้ง หลังจากถูกตำรวจเยอรมันควบคุมตัวเพราะเข้าร่วมการประท้วงการขยายเหมืองถ่านหินที่หมู่บ้านในเยอรมนีเมื่อวานนี้ (17 มกราคม)
โดยตัวแทนตำรวจเยอรมันออกมาเปิดเผยสาเหตุที่ธันเบิร์กถึงถูกควบคุมตัวว่า เธอเป็นส่วนหนึ่งของผู้ประท้วงที่ทำลายรั้วกันพื้นที่และเดินเข้าไปบริเวณหลุมถ่านหินซึ่งเป็น ‘พื้นที่อันตราย’ ที่หมู่บ้านลุตเซรอธ (Lützerath) ในเยอรมนี
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มกราคม) ธันเบิร์กได้ทวิตข้อความว่าจะเข้าร่วมการประท้วง และยังเชิญชวนให้คนอื่นๆ เข้าร่วมด้วย พร้อมบอกว่า “พวกเราต้องหยุดการทำลายโลกของเราเพื่อสนองความต้องการผลประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ”
ธันเบิร์กถูกควบคุมตัวครั้งแรกในวันอาทิตย์ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งหลังจากถูกปล่อยตัว เธอก็เข้าร่วมการประท้วงอีกครั้งในวันอังคารที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การประท้วงครั้งนี้กินเวลามานานถึง 2 ปีแล้ว ซึ่งสาเหตุของการประท้วง คือ การเผาถ่านหินลิกไนต์ (Lignite) เพื่อนำมาเป็นพลังงานที่จะนำไปสู่การสูงขึ้นของอุณหภูมิโลก เพราะถ่านหินชนิดนี้สร้างมลพิษมากที่สุดในบรรดาถ่านหินชนิดอื่นๆ และมากไปกว่านี้ผู้คนในหมู่บ้านลุตเซรอธยังถูกขับไล่เพราะจำเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อขุดเจาะเหมืองอีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทโรงงานไฟฟ้า (RWE) และพรรคกรีน (Green Party) ของเยอรมนี ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าการขยายเหมืองจะเพิ่มการปล่อยมลพิษมากกว่าเดิม โดยให้เหตุผลว่ายุโรปสามารถชดเชยการปล่อยก๊าซได้ แต่ถึงกระนั้นรายงานสภาพอากาศหลายฉบับระบุอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นในการเร่งใช้พลังงานสะอาดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล
การประท้วงครั้งนี้มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งทางฝั่งที่ไม่เห็นด้วยต่างแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า นักเคลื่อนไหวเหล่านี้สมควรไปประท้วงกับเรื่องที่ใหญ่กว่านี้ อาทิ การใช้เครื่องบินส่วนตัวของคนรวยที่สร้างมลพิษทางอากาศจำนวนมากต่อปี การปล่อยก๊าซจำนวนมหาศาลของประเทศจีน เป็นต้น
ขณะที่ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการประท้วงต่างออกมาให้กำลังใจนักเคลื่อนไหวและหวังว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดี เพราะเล็งเห็นถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะตามมา
อ้างอิงจาก