“โปรดรักษาชื่อหนูไว้ หนูชื่อลีโล่ (Lilo) โปรดรักหนู เพราะแม่ไม่สามารถดูแลหนูได้อีกแล้ว แม่เป็นคนไร้บ้านที่มีลูกอีก 2 คน แม่พยายามที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ หนูต้องใช้เงินมากเกินไปสำหรับแม่” กระดาษที่ติดมากับปลอกคอลีโล่เขียนไว้
“แม่รักหนูมาก หนูเป็นหมาที่ยอดเยี่ยม และสมควรจะได้ความรัก ได้โปรดอย่าทำร้ายหนู” ข้อความในกระดาษสิ้นสุดตรงนี้
“พวกเราร้องไห้ตอนที่อ่านโน๊ตฉบับนี้” ลอว์เรน แมน ผู้อำนวยการสถานดูแลสัตว์แมคคามี่ที่ทำงานที่นี่มา 6 ปีแล้วเล่าว่า พวกเขาได้รับลีโล่สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดผสมไพรีนิส หลังมีคนพบมันเดินอยู่โดดเดี่ยวบนถนนชาโทโนกา ในรัฐเทนเนสซี และเมื่อมาถึงนัยน์มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ยังคงสงบเงี่ยมและเจียมเนื้อเจียมตัว
ในมุมของแมนและทีมงานในสถานดูแลสัตว์แมคคามี่ เป็นเรื่องแปลกที่คนที่ทิ้งสัตว์เลี้ยงจะฝากโน๊ตเอาไว้แบบนี้ เธอกับทีมงานจึงตัดสินใจจะเผยแพร่เรื่องนี้ผ่านโซเชียล มีเดีย เพื่อหวังว่าเจ้าของลีโล่จะได้เห็น และมาพาตัวมันกลับไปอยู่ด้วย
“โน๊ตถึงแม่ของลีโล่: พวกเรายืนอยู่ข้างคุณ” จดหมายถึงแม่ลีโล่เริ่มขึ้นแบบนั้น “พวกเรารู้สึกเสียใจที่คุณต้องตัดสินใจทิ้งเธอแบบนี้ แต่ไม่ใช่แค่คุณ หลายคนกำลังเผชิญปัญหาจากการดูแลสัตว์เลี้ยงตอนนี้” พวกเขาเขียนต่อว่า “เรารู้มันเป็นสิ่งที่ยากแค่ไหน ที่ต้องทิ้งสัตว์เลี้ยงที่คุณยังรักอยู่เต็มเปี่ยม เพียงเพราะไม่สามารถดูแลเขาได้เท่าที่ควร เราเข้าใจจุดนั้น”
“พวกเราอยากบอกคุณว่าตอนนี้ลีโล่ปลอดภัย เราจะดูแลเธออย่างดีที่สุด เธอจะได้รับความรักจากสตาฟท์และอาสาสมัครของเราทุกคน เราสัญญาว่าจะเก็บชื่อลีโล่เอาไว้ และจะทำทุกอย่างเพื่อหาบ้านที่อบอุ่นหลังใหม่ให้แก่ลีโล่” โน๊ตจากสถานพักพิงทิ้งท้ายว่า “แต่ถ้าคุณได้เห็นข้อความนี้ พวกเราหวังว่าคุณจะกลับมารับมันไปดูแล และเราจะช่วยคุณทุกอย่างที่จำเป็นในการเลี้ยงดูลีโล่ ด้วยความสามารถทั้งหมดที่เรามี”
สภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอยทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเผชิญความยากลำบาก โดยแมนเล่าว่าเมื่อปีที่แล้ว มีสัตว์เกือบ 5,000 ตัวถูกทิ้งเพราะเหตุผลด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ข้อมูลจาก American Pet Products Association trade group เปิดเผยว่า 35% และครึ่งนึงยอมรับว่าอาจต้องทิ้งพวกมันเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สวนทางกับรายได้ หนึ่งในปัญหาใหญ่คือค่ารักษาพยาบาลที่พุ่งสูง และการขาดแคลนที่พักราคาถูกซึ่งอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
“มันมีปัจจัยหลายอย่างที่สัมพันธ์กับวิกฤตใหญ่ที่เกิดขึ้นตอนนี้” แมนกล่าว ในปัจจุบัน ศูนย์พักพิงหลายแห่งพยายามออกนโยบายเพื่อรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาทิ จุดแจกอาหารสัตว์, คลินิคฉีดวัคซีนและฝังชิป, สเปรย์ราคาถูก รวมถึงศูนย์หาบ้านใหม่ให้สัตว์เลี้ยง
ภายหลังข้อความจากศูนย์พักพิงถูกโพสต์ออกไปเพียงหนึ่งวัน แม่ของลีโล่ก็กลับมาหาลีโล่ที่ศูนย์พักพิงและทั้งคู่ก็ได้สวมกอดกันอีกครั้ง แม่ของลีโล่เปิดเผยว่าเธอมีลูก 2 คน และขณะนี้พวกเธออาศัยอยู่ในบ้านพักที่ห้ามเลี้ยงสัตว์ ทำให้ทางศูนย์พักพิงกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อหาบ้านใหม่ให้ครอบครัวของลีโล่กลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน แต่ระหว่างนั้น ลีโล่จะอยู่ที่ศูนย์พักพิงไปก่อน
“พวกเรากำลังพยายามอย่างที่สุดที่จะทำให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วยกันได้” แมนและศูนย์พักเลี้ยงแมคเคนนี่หวังว่าเรื่องราวของลีโล่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนให้ความช่วยเหลือองค์กรที่ทำงานกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับเลี้ยง, อุปการะ, บริจาคอาหาร หรือเข้ามาเป็นอาสาสมัคร
“ความเห็นใจและความเข้าใจคือสิ่งที่สัตว์และมนุษย์ทุกคนต้องการที่สุด ในห้วงเวลาแบบนี้” แมนกล่าวถึงกรณีของลีโล่และแม่ของมัน
อ้างอิงจาก:
https://www.facebook.com/McKameyAnimalCenter/posts/573415754815315
https://www.washingtonpost.com/lifestyle/2023/01/27/lilo-dog-note-mckamey-animal-center/