การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2566) มีวาระพิจารณาเพียงเรื่องเดียว คือพิจารณาว่าจะรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. …. หรือร่าง พ.ร.บ.สื่อ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเสนอมาในฐานะกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปประเทศหรือไม่
สำหรับร่าง พ.ร.บ.สื่อ องค์กรวิชาชีพสื่ออย่างน้อย 3 องค์กร ประกอบด้วยสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ทยอยกันออกแถลงการณ์คัดค้าน ภายหลังจากมีการร่วมลงชื่อคัดค้านของทั้งจากสื่อภาคสนาม นักวิชาการสื่อ นักเรียนสื่อ และประชาชนทั่วไป ผ่านทาง google forms กว่า 300 คน และเว็บไซต์ change.org/nomediabill อีกกว่า 2,000 คน
เนื่องจากเห็นปัญหาในการจัดทำร่างกฎหมายนี้มากมาย ทั้งในเชิงกระบวนการ ที่ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นพียงพอ และในเชิงเนื้อหาหลายชุด เช่น นิยามความเป็นสื่อที่เหมารวมถึงประชาชนทั่วไปและแพล็ตฟอร์ม, การจัดตั้งองค์กรวิชาชีพสื่อใหม่ที่มาจากการสรรหาคนในวงแคบแต่อยู่ยาว, การกำหนดให้ได้รับเงินจากภาครัฐปีละหลายสิบล้านบาทเสี่ยงต่อการถูกแทรกแซง ฯลฯ
สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สื่อ ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันนี้ ระหว่างเวลา 11.00-17.45 น. มีผู้ร่วมอภิปราย 32 คน ทั้งจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึง ส.ว.แต่งตั้ง
ผู้สื่อข่าว The MATTER ร่วมรับฟังอยู่ด้วย ขอหยิบบางความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.สื่อมานำเสนอ ดังนี้
- ฝ่ายคัดค้าน
อาทิ
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.ก้าวไกล กล่าวว่า กฎหมายนี้ไม่ตรงปก ปกอ้างว่าส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ แต่เนื้อหากลับเป็นการควบคุม ส่วนตัวเป็นห่วงมาตรา 44 ของร่าง พ.ร.บ.สื่อ ที่ให้กรรมการจริยธรรมสื่อส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาบทลงโทษอาญาตามกฎหมายอื่นได้ / ไม่รับร่าง พ.ร.บ.นี้
อนุรักษ์ บุญศล ส.ส.เพื่อไทย มองว่า สื่อที่มีสังกัดแทบไม่ได้รับผลกระทบจากร่าง พ.ร.บ.สื่อ แต่ที่น่าจะกระทบหนักแน่ๆ คือสื่อออนไลน์ รวมไปถึงผู้ใช้แพล็ตฟอร์มออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก แอดมินเพจต่างๆ จะถูกควบคุมภายใต้ร่างกฎหมายนี้ และอาจถูกรัฐใช้ควบคุมสื่อหรือไม่ / ขอให้ถอนออกไป
มัลลิกา บุญมีตระกูล ส.ส.ประชาธิปัตย์ อ้างถึงแถลงการณ์องค์กรวิชาชีพสื่อที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.สื่อ หลังมีปัญหาทั้งเรื่องที่มากรรมการสภาวิชาชีพสื่อ การได้งบจากภาครัฐ ฯลฯ รวมถึงถูกเขียนตั้งแต่นานแล้ว โดยมองว่า กฎหมายนี้ค่อนข้างล้าหลัง ไม่ตรงบริบทสื่อที่เปลี่ยนไป เขียนตั้งแต่ยังไม่มี TikToker เลย รวมถึงในวงการสื่อก็มีการกำกับดูแลกันเองอยู่แล้ว ไม่ควรมีกฎหมายอื่นเข้าควบคุม / ขอให้ถอนออกไป
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.เพื่อไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.สื่อจะดี ถ้าเนื้อหาสมบูรณ์ แต่เท่าที่อ่าน ร่างของมันมาแบบไม่ชอบเท่าไร ถ้าถอนไปก่อนจะดีกว่า เพราะ ‘ราก’ ของมันมาจากยุค คสช. ที่ใช้อำนาจนิยม ไม่อยากให้สื่อด่าท่านผู้นำ, สื่อจะดี-ไม่ดี สังคมจะเป็นผู้กำกับและให้คำตอบ, ปัญหานิยามสื่อในร่าง พ.ร.บ.สื่อหลงยุค, การตั้งสภาวิชาชีพสื่อใครจะตรวจสอบ, เจตจำนงดี แต่ยัดไส้ปัญหาไว้ข้างใน, โดยสรุปคือ กฎหมายฉบับนี้ “ไม่ตรงปก ไม่รู้กาลเทศะ” / ขอให้ถอนไปทำประชาพิจารณ์มากกว่านี้ เปิดวงให้มีคนจากสมาคมสื่อ บ.ก. และนักข่าวภาคสนามไปคุยกัน
ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.ก้าวไกล กล่าวว่า บทบาทของสื่อสำคัญต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่จะต้องสื่อสารข้อมูลครบถ้วนรอบด้านและเป็นจริง แต่ปัญหาร่าง พ.ร.บ.สื่อ กลับกำหนดไว้ว่า เสรีภาพสื่อต้องไม่ขัดศีลธรรมอันดี (ม.5) ซึ่งความหมายไม่ชัดเจน, ข้อมูลจาก freedom house สื่อไทยไม่มีเสรีภาพ กฎหมายนี้เน้นควบคุมมากกว่าส่งเสริม / จึงไม่เห็นด้วย
สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ภูมิใจไทย มองว่า มีหลายครั้งที่สื่อมีปัญหา เช่น เฟกนิวส์ หลอกลวง หรือบางสื่อทำตัวเป็นมาเฟียเรียกรับผลประโยชน์, คำถามคือร่าง พ.ร.บ.สื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นได้จริงหรือ ส่วนตัวคิดว่ากฎหมายล้าสมัย เพราะบริบทสื่อเปลี่ยนไป ร่าง พ.ร.บ.นี้ถูกเขียนขึ้นตั้งแต่ยังไม่มี TikTok, นอกจากนี้ ยังให้งบมาจากรัฐ อาจเปิดช่องครอบงำหรือไม่ / ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ถอนไปทบทวน แต่ถ้าต้องเดินหน้า ฝาก กมธ.วิสามัญปรับแก้
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เพื่อไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.สื่อเป็นกฎหมายย้อนยุค ทั้งที่อ้างว่าเป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศ แต่กลับเปิดช่องให้รัฐเข้าไปล้วงลูกองค์กรวิชาชีพสื่อใหม่ที่จะตั้งขึ้นมา ไม่มีผลดีใดๆ ต่อประชาชน, อายุสภาเหลือเดือนเศษ พิจารณาไม่ทัน รอเสนอใหม่สภาชุดหน้าดีกว่า / พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เห็นชอบกฎหมายที่จะมาควบคุมกำกับสื่อ ทางที่ดีที่สุดคือถอนร่างออกไป
- ฝ่ายสนับสนุน
อาทิ
สมชาย แสวงการ ส.ว.แต่งตั้ง บอกว่า ในฐานะอดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ 2 สมัย เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ สื่อต้องปฏิรูปตัวเอง วันนี้มีสื่อแท้-สื่อเทียม เกิดกรณีสื่อคุกคามประชาชน แต่องค์กรวิชาชีพสื่อมีอำนาจจำกัด เป็นเสือกระดาษ ร่าง พ.ร.บ.สื่อ อาจไม่สมบูรณ์ 100% แต่เราอย่าหลอกตัวเอง วันนี้สื่อมีปัญหาเรื่องจริยธรรมอย่างมาก เหมือนทนาย แพทย์ วิศวกร ต้องมีกฎหมายกำกับดูแล สื่อเป็นใครล่ะครับถึงจะไม่มีกฎหมายกำกับดูแล / อยากให้ผ่านไปก่อน ถ้ามีปัญหาอื่นๆ ให้ไปแก้ในชั้น กมธ.วิสามัญ คุยกันให้จบ พอมีรัฐบาลชุดใหม่ ก็ให้พิจารณาว่าจะยืนยันหรือไม่ ใน 60 วัน
เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.แต่งตั้ง มองว่า เนื้อหาร่าง พ.ร.บ.สื่อ ตนพยายามดูว่าจะออกมา ‘ปิดหูปิดตา’ สื่อเหมือนที่หลายคนเป็นห่วงไหม ซึ่งยังไม่เห็น มีแต่ตั้งองค์กรขึ้นมาดูแล บทลงโทษก็มีแค่ตำหนิ ภาคทัณฑ์ ประจาน ไม่มีเรื่องออกใบอนุญาต-ขึ้นทะเบียน, สื่อมักพูดกันถึงเสรีภาพสื่อ แต่ไม่ได้พูดถึงเสรีภาพประชาชน เวลาโดนสื่อล่วงละเมิดหรือทำให้เสียหาย / เห็นด้วย นิพนธ์ นาคสมภพ ส.ว.แต่งตั้ง เชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.สื่อได้แยกสื่ออาชีพกับประชาชนทั่วๆ ไปที่สื่อสารอยู่แล้ว “แล้วคนที่เป็นสื่อสุจริตกลัวอะไร?” / เห็นด้วยกับการมีกฎหมายนี้ เพียงแต่ต้องรับฟังความเห็นเพิ่มเติม
นิพนธ์ นาคสมภพ ส.ว.แต่งตั้ง เชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.สื่อได้แยกสื่ออาชีพกับประชาชนทั่วๆ ไปที่สื่อสารอยู่แล้ว “แล้วคนที่เป็นสื่อสุจริตกลัวอะไร?” / เห็นด้วยกับการมีกฎหมายนี้ เพียงแต่ต้องรับฟังความเห็นเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ไม่ได้ลงมติว่าจะรับหลักการร่าง พ.ร.บ.สื่อไม่ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ มีผู้มาแสดงตัวเพียง 182 คน จากทั้งหมด 667 คน (องค์ประชุมต้องได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง หรืออย่างน้อย 334 คนขึ้นไป) ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาจึงสั่งปิดประชุม โดยก่อนหน้านั้นก็ระบุว่า หากจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สื่ออีกครั้ง จะต้องไปต่อคิวร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติรวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย แต่อายุของสภาผู้แทนราษฎรเหลือเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น
หากเราจะขอสรุปโดยนัย ร่าง พ.ร.บ.สื่อ ไม่น่าจะออกมาทันสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรนี้ ก็คงจะไม่ผิดนัก
#Brief #พรบสื่อ #เสรีภาพสื่อ #TheMATTER