ไม่นานมานี้ข้อสันนิษฐานที่ว่า ไวรัสซึ่งเป็นต้นตอของโรค COVID-19 รั่วไหลมาจากห้องห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่นกลายเป็นประเด็นครึกโครมอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ผลวิจัยล่าสุดจากการวิเคราะห์ตัวอย่างพันธุกรรม พบความเชื่อมโยงของไวรัสกับดีเอ็นเอของจิ้งจอกแร็กคูน
ดูเหมือนข้อมูลที่เปิดเผยครั้งนี้ จะเพิ่มหลักฐานให้กับทฤษฎีที่ว่าไวรัสโควิดมีต้นกำเนิดจากสัตว์ได้มากทีเดียว หลังทีมผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสระหว่างประเทศ ระบุว่า พวกเขาพบข้อมูลทางพันธุกรรมจากตลาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่เชื่อมโยงไวรัสโควิดเข้ากับจิ้งจอกแร็กคูนที่มีจำหน่าย
สำหรับข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดนั้น ได้มาจากการสวอบทั่วบริเวณตลาดทั้ง ผนัง พื้น กรงเหล็ก และพาหนะที่ใช้ขนส่งสัตว์ เพราะตอนนั้นทางการจีนได้กำจัดสัตว์ต่างๆ ไปแล้ว หลังมีคำสั่งสั่งปิดตลาดเพราะสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการระบาดในเวลานั้น ซึ่งผลการทดสอบก็ออกมาเป็นบวกตามคาด
แล้วทำไมข้อมูลนี้ถึงเพิ่งเปิดเผย? อาจต้องนับว่าเป็นความบังเอิญ ที่เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ฟลอเรนซ์ เดบาร์เร นักชีววิทยาวิวัฒนาการแห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส เข้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตลาดหัวหนานไปในระบบ GISAID ซึ่งเป็นฐานข้อมูลระหว่างประเทศที่เก็บลำดับพันธุกรรมของไวรัส แล้วสังเกตว่ามีลำดับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นมา เมื่อเข้าไปดูก็พบข้อมูลดิบจำนวนมาก จึงแจ้งไปยังนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ
แต่เมื่อทีมงานมีการติดต่อไปยังนักวิจัยชาวจีนที่อัปโหลดไฟล์ข้อมูลดังกล่าวตามขั้นตอนของ ระบบ GISAID พร้อมยื่นข้อเสนอในการศึกษาประเด็นนี้ต่อ ผ่านไปไม่นานข้อมูลก็ถูกลบออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งนี้ มีตัวอย่างหนึ่งที่ถูกเก็บมาจากรถเข็นที่เชื่อมโยงกับแผงขายสัตว์แห่งหนึ่งในตลาด ได้ดึงดูดใจบรรดาผู้เชี่ยวชาญอย่างมาก โดยเฉพาะเอ็ดเวิร์ด โฮล์มส์ นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ที่เคยไปที่นั่นในปี 2014 และพบว่า มีจิ้งจอกแร็กคูนที่ถูกขังไว้ในกรงแยก ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแพร่กระจายของไวรัสชนิดใหม่
ขณะที่ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ก็ได้ออกมาวิจารณ์จีนที่ไม่เปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว “ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่าการระบาดเริ่มต้นอย่างไร แต่มีความสำคัญที่จะทำให้เราเข้าใกล้คำตอบมากขึ้น” เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ระบุ
อย่างไรก็ดี การที่พบสารพันธุกรรมของไวรัสและสัตว์ผสมผสานกัน ไม่ได้พิสูจน์ว่าจิ้งจอกแร็กคูนนั้นได้แพร่เชื้อไปสู่มนุษย์ สัตว์อื่นก็สามารถนำพาเชื่อไปสู่คนได้ หรือผู้ที่ติดเชื้อไวรัสอาจแพร่ไปยังจิ้งจอกแร็กคูนได้เช่นกัน เพียงแต่หลักฐานการค้นพบลักษณะนี้สอดคล้องกับกรณีอื่นๆ ที่เชื้อไวรัสแพร่จากสัตว์ป่าไปสู่มนุษย์
อ้างอิงจาก