แสงแดดจางๆ เผยให้เห็นพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ อาคารรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร จากฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเทมส์ ความพร่ามัวคุ้นตาราวกับหมอกควัน PM2.5 ในปัจจุบัน แต่นี่คือหนึ่งในซีรีส์ภาพวาดสีน้ำมัน ‘Houses of Parliament’ ของศิลปินชาวฝรั่งเศส โคลด โมเนต์ (Claude Monet) ที่สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20
แท้จริงแล้ว ภาพวาดสีน้ำมันในซีรีส์นี้ และอีกหลายๆ ชิ้นในช่วงใกล้เคียงกันของโมเนต์ ก็ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘ฝุ่นควัน’ หรือ ‘มลพิษทางอากาศ’ (air pollution) นี่แหละ – งานวิจัยชิ้นใหม่ยืนยัน
งานวิจัยในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS) ได้ศึกษาภาพวาดกว่า 100 ชิ้นของโมเนต์ และโจเซฟ มัลลอร์ด วิลเลียม เทอร์เนอร์ (Joseph Mallord William Turner) ศิลปินชาวอังกฤษ เพื่อดูว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่กับมลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นผลผลิตของการปฏิบัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ในช่วงเวลานั้น
“ฉันกำลังทำงานเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ และขณะเดียวกันก็ไปเห็นภาพวาดของเทอร์เนอร์, [เจมส์ แอ็บบ็อตต์ แม็กนีล] วิสต์เลอร์ (James Abbott McNeill Whistler) และโมเนต์ ที่พิพิธภัณฑ์เทต (Tate) ในลอนดอน และพิพิธภัณฑ์ออร์แซ (Musée d’Orsay) ในปารีส จนสังเกตเหตุถึงสไตล์งานที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
“เส้นสายในภาพวาดของพวกเขาพร่ามัวลง ชุดสีมีความกว้างขึ้น และสไตล์ที่เน้นรูปร่างรูปทรงก็มีความเป็นอิมเพรสชันนิสต์มากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นมันสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในทางกายภาพ เมื่อมลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อแสง” แอนนา ลีอา อัลไบรต์ (Anna Lea Albright) หนึ่งในผู้วิจัย กล่าวกับ CNN
สิ่งที่ทีมนักวิจัยทำ คือ ดูความคมของขอบ และปริมาณสีขาวในภาพวาด เทียบกับมาตรวัดที่ใช้คาดปริมาณมลพิษทางอากาศในช่วงเวลาที่สร้างสรรค์ภาพวาดเหล่านั้น คือระหว่างปี 1796-1901 ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์แล้ว มลพิษทางอากาศจะทำให้ “วัตถูดูพร่ามัวลง” ขอบเบลอลง และทำให้วิวทั้งหมดดูขาวขึ้น เพราะมลพิษจะ “สะท้อนแสงที่มองเห็นได้ (visible light) ในทุกความยาวคลื่น”
“เราพบว่ามันมีความสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดใจ” อัลไบรต์กล่าว
ทำให้นักวิจัยมองว่า ภาพวาดเหล่านี้มันสะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งมันจะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงทางสไตล์และศิลปะของตัวศิลปินแล้ว เรื่องนี้เป็นเพราะปารีสและลอนดอนพัฒนาอุตสาหกรรมในช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่พบว่าทั้งงานของโมเนต์และเทอร์เนอร์กลับมีความคล้ายคลึงกัน
นอกจากนี้ อัลไบรต์ยังบอกว่า มีหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยยืนยัน คือความสนใจของศิลปินทั้งสอง เทอร์เนอร์ให้ความสนใจกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับท้องฟ้าในช่วงเวลานั้น ขณะที่โมเนต์เคยเขียนจดหมาย พูดถึงอิทธิพลของมลพิษทางอากาศต่อความคิดสร้างสรรค์ของเขา
อย่างไรก็ดี แม้จะมีงานวิจัยออกมาเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้เหมือนกัน เซบาสเตียน สมี (Sebastian Smee) นักวิจารณ์ศิลปะชาวออสเตรเลีย เขียนบทความใน The Washington Post โต้แย้งสมมติฐานนี้อย่างสิ้นเชิง
“ความเชื่อมโยงมันมีอยู่ และมันถูกต้อง แต่การจะชี้แนะว่า ความสุดโต่งที่เพิ่มมากขึ้นของเทอร์เนอร์และโมเนต์ – ความเต็มใจที่จะยอมทิ้งเค้าโครงรูปร่างที่ชัดเจน และวิธีเขียนภาพแบบเก่าๆ – เป็นผลมาจากระดับซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในอากาศที่เพิ่มขึ้น นั่นคือความสับสนระหว่างการตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์จากภายใน กับสิ่งเร้าจากภายนอก”
อ้างอิงจาก