เมื่อมีจุดเริ่มต้น ก็ย่อมจะมีจุดจบ หลังผ่านมา 4 ปีครึ่ง ในที่สุด ‘บทสุดท้าย’ ก็กำลังจะมาถึง
สำหรับผู้ที่อยากรู้เรื่องเร็วๆ ว่าข่าวนี้จะเกี่ยวข้องกับอะไร ขอสรุปสั้นๆ ว่า เป็นข่าวความคืบหน้าของคดีที่มีการฟ้อง ป.ป.ช. เรื่องการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร โดยศาลปกครองสูงสุดเตรียมอ่านคำพิพากษาในวันศุกร์ที่ 21 เม.ย.2566 ว่า ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยข้อมูลหรือไม่
โดยรายละเอียดในคดีนี้ก็คือ นับแต่ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2561 ไม่รับไต่สวนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมในรัฐบาล คสช. แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จหรือไม่ หลังมีคนสังเกตเห็นการสวมใส่นาฬิกาหรูกว่า 20 เรือน ซึ่งไม่ปรากฏไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน – โดย ป.ป.ช. เชื่อคำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตรที่ว่านาฬิกาหรูทั้งหมดยืมเพื่อนมาใส่ (จนสื่อมวลชนเรียกกรณีนี้สั้นๆ ว่า ‘คดีนาฬิกายืมเพื่อน’)
วันรุ่งขึ้น (28 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวของ The MATTER ก็ทำหนังสือขอดูข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยทันที เนื่องจากยังมีข้อสงสัยที่ไม่เคลียร์อยู่หลายๆ อย่าง หลังศึกษาข้อกฎหมายแล้วพบว่า ในกฎหมาย ป.ป.ช.เปิดช่องเอาไว้ว่า ในคดีที่ยุติแล้วให้สามารถเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือรายงานการไต่สวนได้
แต่เอกสารที่เราได้รับจาก ป.ป.ช.ครั้งแรกตอนกลางปี 2562 จำนวนมากกลับเป็นกระดาษเปล่า! (ตามภาพ) นำไปสู่การทำคลิป unboxing เพื่อตั้งคำถาม: https://www.youtube.com/watch?v=uIKainFfOwY
จากนั้น เราก็ติดตามขอข้อมูลดังกล่าวอย่างไม่ลดละ เพราะยังคาใจผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ในคดีนาฬิกายืมเพื่อนอยู่ และขณะเดียวกันก็เห็นว่า หากองค์กรที่มีหน้าที่สร้างความโปร่งใสด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กลับไม่ทำตัวให้โปร่งใสเสียเอง ก็ยากจะทำให้สังคมเกิดความเชื่อถือในการทำงาน
ผู้สื่อข่าว The MATTER ก็สู้ไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และชนะมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในชั้นของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร และศาลปกครองชั้นต้น ที่สั่งให้ ‘ต้องเปิดเผย’ เอกสารสำคัญ 2 รายการ ได้แก่ 1.รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เสนอต่อที่ประชุม ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2561 รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และ 2.คำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตรต่อ ป.ป.ช. ทั้ง 4 ครั้ง (โดยให้ปกปิดข้อมูลเฉพาะของบุคคล เข่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพยาน ซึ่งเข้าใจได้) แต่ทาง ป.ป.ช.ก็สู้คดีในทุกขั้นตอน กระทั่งเรื่องเดินมาถึงขั้นตอนท้ายที่สุดคือ ศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ การฟ้องขอผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนจาก ป.ป.ช. ยังมีคดีที่วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เป็นผู้ฟ้องขอให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารอีกคดี ซึ่งเนื้อหาจะคล้ายกับของผู้สื่อข่าว The MATTER
รอติดตามกันว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจะออกมาเช่นไร จะสั่งให้ ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคดีนาฬิกายืมเพื่อนหรือไม่? และกรณีนี้จะช่วยยกระดับความโปร่งใสขององค์กรที่มีหน้าที่หลักในการสร้างความโปร่งใสให้กับสังคมไทยได้มากน้อยเพียงใด?
#Brief #ปปช #คดีกระดาษเปล่า #TheMATTER