หลังเมื่อวานนี้ (8 พฤษภาคม) ทิพานัน ศิริชนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพสะพานพระราม 8 บนผ่านทวิตเตอร์ โดยบนสะพานมีข้อความเรืองแสงระบุว่า “รวมไทยสร้างชาติ” “ลุงตู่อยู่ต่อ” “มั่นคง มั่งคั่ง” และ “โครงสร้างพื้นฐานดี” โดยทุกข้อความมีเบอร์ 22 ซึ่งเป็นเบอร์พรรคและโลโก้ของพรรค
ทำให้ประชาชนหลายคนต่างตั้งคำถามว่า สามารถหาเสียงในลักษณะนี้ได้ด้วยหรอ? และล่าสุดวันนี้ (9 พฤษภาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสุพจน์ หล้าจำศีล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการฉายข้อความหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติบนเสาสะพานพระราม 8 ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพฯ (เสาชิงช้า)
โดยผู้ว่าฯ กล่าวว่า พื้นที่สวนหลวงพระราม 8 และใต้สะพานสวนหลวงพระราม 8 เป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตในการใช้ปราศรัยหาเสียงได้ เพราะเรามีนโยบายเปิดให้มีพื้นที่ไว้สำหรับหาเสียงให้มากที่สุด
ผู้ว่าฯ พูดต่อว่า ทิพานัน ศิริชนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นผู้ทำหนังสือขออนุญาตใช้สถานที่หลังริมน้ำสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราอนุญาตให้ใช้หาเสียงอยู่แล้ว โดยทางพรรคเองก็มีแนบเอกสารรายละเอียดขอใช้พื้นที่มาด้วย
ดังนั้น นายสุพจน์ หล้าจำศีล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองฯ ก็แจ้งให้อนุญาตกับทางพรรคไป เพราะคิดว่าเป็นการหาเสียงปกติ ไม่คิดว่าจะมีการฉายข้อความไปบนเสาสะพานด้วย นอกจากนี้ ตัวสะพานไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เราอนุญาตให้ใช้หาเสียง และสะพานก็ไม่ได้อยู่ในการปกครองของเขตสวนหลวง แต่เกี่ยวข้องกับสำนักงานโยธาที่เป็นผู้รับผิดชอบ แต่สำนักโยธาไม่ทราบเรื่องนี้
“พื้นที่ส่วนนี้ท่านผู้ว่าฯ กำหนดให้เป็นพื้นที่หาเสียงอยู่แล้ว แต่เงื่อนไขต้องเป็นไปตามที่นักสิ่งแวดล้อมกำหนด เช่น ค่าไฟ ที่ทางพรรคต้องออกค่าใช้จ่ายเอง หรือเวลาที่ขออนุญาตก็ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดเช่นกัน” ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองฯ ระบุ
“ทางผู้สมัครเองก็เขียนรายละเอียดมาว่า จะขอฉายข้อความ แต่เราไม่ได้ดูอย่างละเอียดเอง เพราะตอนนั้นมีพรรคต่างๆ ยื่นหนังสือขอใช้พื้นที่เยอะ แต่ย้ำว่า ในส่วนของกทม. ไม่มีการอนุญาตให้ฉายข้อความในลักษณะดังกล่าวเพราะมันอยู่นอกขอบเขตของการใช้พื้นที่หาเสียง” ผู้ว่าฯ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กล่าวปิดท้ายว่า มีการอนุญาตจริง เพราะเราคิดว่าเป็นการหาเสียงปกติทั่วไปในบริเวณสวนหลวงพระราม 8 ทำให้ในครั้งนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ขออนุญาต เพราะเราดูรายละเอียดไม่ชัดเจนเองด้วย นอกจากนี้ เราต้องการให้พื้นที่กทม. เป็นพื้นที่ที่ไว้ใช้หาเสียงเป็นหลัก ดังนั้น เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน ทางเราก็ขออภัยกับความคลาดเคลื่อนของแง่ในการสื่อสาร
อ้างอิงจาก