จะเป็นอย่างไรหากเราต้องไปสนามบินในแล้วเจอกลุ่มคนจำนวนมากไปรอรับ-ส่งศิลปินที่สนามบินพอดี?
ประเด็นการให้เลิกรับ-ส่งศิลปิน หรือคนมีชื่อเสียงกลับมาอีกครั้ง หลังมีผู้โพสต์ภาพของคนไปรอส่ง อิงฟ้า วราหะ และชาล็อต ออสติน จากเวทีมิสแกรนด์ ที่สนามบินจำนวนมาก จนมีคนออกมาแสดงความเห็นถึงความไม่เหมาะสมที่จะให้แฟนคลับไปตามรับ-ส่งศิลปินที่สนามบิน เพราะอาจทำให้ผู้ใช้บริการสนามบินคนอื่นๆ เดือดร้อนได้
แต่ก่อนจะไปไกลกว่านี้ เราขอเล่าย้อนถึงสถานการณ์การไปรับ-ส่งศิลปินหรือคนมีชื่อเสียงที่สนามบินกันก่อนว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และที่ผ่านมาก็มีแฟนคลับหลายกลุ่มเริ่มออกมารณรงค์ให้หยุดรับ-ส่งศิลปินที่สนามบินเช่นกัน
โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อศิลปินต้องโดยสารด้วยเครื่องบินมาที่ประเทศไทย ก็มักจะเห็นแฟนๆ ไปรอรับ-ส่งศิลปินหรือคนที่พวกเขาชื่นชอบกันที่สนามบินจนกลายเป็นภาพปกติ
อีกทั้งเวลาที่ศิลปินต่างชาติเดินทางมาจัดแฟนมีตติ้งหรือคอนเสิร์ตที่ไทย ศิลปินหลายๆ คนก็มักจะขอบคุณแฟนคลับชาวไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นอยู่เสมอ
เช่น อีกวางซู นักแสดงจากประเทศเกาหลีใต้ที่เคยบินมาจัดแฟนมีตติ้งกับสมาชิกรันนิ่งแมนที่ประเทศไทย พอได้เห็นแฟนคลับไปรอรับที่สนามบินจำนวนมาก เขาก็รู้สึกตกใจและขอบคุณที่ทุกคนไปต้อนรับที่สนามบิน เพราะทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก เช่นเดียวกับศิลปินคนอื่นๆ ที่มาจัดคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทย ก็มักจะกล่าวขอบคุณหรือดีใจที่ได้เจอแฟนคลับไปรอให้กำลังใจกันอย่างเป็นระเบียบ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการไปรอรับศิลปินหรือคนดังบางคนอาจเป็นเครื่องมือช่วยสร้างความประทับใจและเป็นส่วนหนึ่งในการส่งกำลังใจให้กับศิลปินเหล่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็เริ่มเห็นกระแสการรณรงค์ให้ยกเลิกการไปรับ-ส่งศิลปินที่สนามบินเช่นเดียวกัน โดยเหตุผลหลักๆ ก็เป็นเพราะว่าอาจทำให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการสนามบินคนอื่นเดือดร้อน
หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ เมื่อช่วงวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา บุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ หรือ ส้มเช้ง สามช่า ได้โพสต์คลิปที่ไปส่งลูกสาวเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่ช่วงหนึ่งของคลิปก็ปรากฏเสียงกรี๊ดขึ้นมา จนทำให้ได้ยินเสียงของส้มเช้งในคลิปเบาลงด้วย
หลังจากนั้น ก็มีคนตัดคลิปดังกล่าวแล้วระบุว่า น่ารำคาญมากสำหรับคนที่เขากำลังจะเดินทาง เสียงกรี๊ดดังจนหนวกหู ทั้งยังมีการวิ่งตามศิลปินจนวุ่นวาย
“สนามบินเป็นที่สาธารณะ เสียงกรี๊ดกลบประกาศจากทางสนามบินหมด แบบนี้ทั้งสร้างความวุ่นวายและความเดือดร้อนให้คนอื่นมาก…” อีกหนึ่งผู้ใช้งานทวิตเตอร์ระบุ
รวมไปถึงยังมีผู้ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ในการทำงานช่วงที่มีไฟลต์บินของศิลปินมา ว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้พนักงานสื่อสารกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ลำบากขึ้นอีกเช่นกัน เนื่องจากเสียงกรี๊ดของแฟนๆ ดังจนกลบเสียงพูด
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ อาจมีบางคนที่คิดว่า ถ้าอย่างนั้น แค่ไม่กรี๊ดก็ได้แล้วสิ?
แต่จริงๆ แล้วนอกจากเสียงเสียงกรี๊ดแล้ว จำนวนแฟนคลับที่ไปติดตามคนมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ศิลปิน นางงาม ฯลฯ ก็ไม่ได้มีแค่ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น เพราะเมื่อมีคนจำนวนมากคอยตามซึ่งประเด็นนี้ก็เคยมีคนออกมาแชร์เช่นกันว่า เคยเจอกลุ่มที่คาดว่าเป็นแฟนคลับมาตามศิลปินวิ่งกรูกันแบบไม่ดูทาง จนทำให้เขาล้ม แล้วคนที่วิ่งชนก็ไม่แม้แต่จะหันกลับมาขอโทษ
รวมไปถึง ในบางครั้งก็อาจทำให้คนที่เข้าไปใช้บริการสนามบินหายใจไม่ออก เพราะคนแน่นเกินไปหรือมีการต่อเก้าอี้สูงๆ เพื่อถ่ายรูปศิลปินอีกด้วย
เช่นเดียวกับผู้ใช้งานอีกรายที่ระบุว่า ตอนที่แฟนคลับวิ่งกรูกันตามศิลปินเหมือนฝูงซอมบี้ จนทำให้เขาที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กอยู่ ทั้งกลัวและทำกระเป๋าเดินทางหลุดออกไป และยังเคยเกิดกรณีที่แฟนคลับไปรุม จนทำให้ผู้โดยสารที่มาใช้บริการไม่สามารถทำการเช็คอินได้อีกเช่นกัน
อีกทั้ง ยังมีคนที่ตั้งข้อสังเกตอีกว่า การที่แฟนคลับไปรอพบศิลปินที่สนามบิน ยังอาจทำให้ศิลปินได้รับบาดเจ็บ เช่นในกรณีของชานยอล สมาชิกวง EXO ที่เคยโดนคนมารอรับศิลปินเบียดในสนามบินต่างประเทศจนทำให้รองเท้าที่เขาใส่มาขาด และ โดยอง จากวง NCT ที่เคยโดนคนมารุมเบียดที่สนามบินในเกาหลีใต้จนล้มเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ แม้ว่าที่ผ่านมามักจะเห็นภาพของแฟนคลับบางกลุ่มที่ออกไปนั่งรออย่างเป็นระเบียบเพื่อรอรับศิลปินกันมาบ้าง แต่ก็ยังมีความเห็นที่มองว่าแม้จะนั่งเป็นระเบียบ แต่สนามบินคือสถานที่สำหรับให้คนที่จะเดินทาง หรือรอรับครอบครัวหรือเพื่อนเท่านั้น ไม่ใช่สถานที่สำหรับไปเจอศิลปิน
อย่างไรก็ดี ยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่าถ้าไม่ไปแล้วศิลปินจะเสียใจไหม ซึ่งกรณีนี้ก็มีความเห็นที่ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า “ถ้าอยากให้ศิลปินเห็นว่ามีคนสนับสนุนเยอะ แค่ไหนก็ควรซื้อบัตรไปกรี๊ดในคอนเสิร์ตค่ะ แบบนี้น่าภูมิใจกว่ากันเยอะ”
ทั้งยังมีความเห็นที่มองว่าแม้ต้นสังกัดของศิลปินบางคนจะมีการขออนุญาตใช้สนามบินแล้ว แต่ก็ยังอยากให้ยกเลิกธรรมเนียมนี้อยู่ดี เพราะเป็นการใช้พื้นที่อย่างผิดจุประสงค์ และโดยสสภาพปกติของสนามบินก็มีผู้โดยสารจำนวนมากอยู่แล้วด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรามักเริ่มเห็นค่ายต้นสังกัดของศิลปินหลายๆ คนออกมาประกาศห้ามตามศิลปินที่สนามบิน เช่น เซียวจ้าน นักแสดงชาวจีน ที่สตูดิโอ [ค่าย] ยืนยันว่าไม่สนับสนุนการติดตามศิลปินที่สนามบิน หรือฟานตาจิโอ้ ค่ายต้นสังกัดของ ชาอึนอู วง ASTRO ที่ออกประกาศห้ามตามอึนอูในตารางงานที่ไทยที่ผ่านมาอีกเช่นกัน
ย้อนกลับมาที่ประเด็นของชาล็อตและอิงฟ้า ก็มีความเห็นเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ในสนามบินอีกว่า ทางต้นสังกัดและตัวศิลปินเองก็ไม่ควรนัดเจอแฟนคลับที่สนามบิน เพราะจากคลิปที่เห็น พบว่าทั้งคู่ใช้เวลาในสนามบินกับแฟนคลับเป็นเวลานานจนอาจกีดขวางคนอื่นๆ ทั้งยังมีคนแชร์ว่าถึงจะห้ามแฟนคลับไม่ได้ 100% แต่ตัวศิลปินเองก็น่าจะรีบเช็กอินเพื่อที่แฟนคลับจะได้แยกย้ายกันไป
ส่วนในการจัดการเรื่องที่มีคนไปตามศิลปินที่สนามบิน ของประเทศไทย น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ เคยระบุไว้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ผอ.สุวรรณภูมิ เมื่อปี 2019 ว่า ทางสนามบินได้ออกมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการจัดโซนพื้นที่ คุมเข้ม และถ้าหากทราบว่าจะมีศิลปินเดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมให้กลุ่มแฟนคลับนั่งรอในพื้นที่ที่กำหนด รวมถึงห้ามแฟนคลับส่งเสียงหรือกีดขวางทางเดินผู้โดยสาร ถ้าไม่ทำตามก็จะมีเจ้าหน้าที่ตักเตือน เชิญออก และอาจถึงแจ้งความดำเนินคดีก็ได้
อ้างอิงจาก
twitter.com(2)(3)(4)(5)(6)(7)(8)(9)(10)(11)