ขยับอีกครั้งสำหรับจำนวนที่นั่งของ ส.ส. ของแต่ละพรรค หลังวันนี้ (25 พฤษภาคม) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไป อย่างเป็นทางการแล้ว โดยพรรคก้าวไกลได้รับการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต ลดลง 1 ที่นั่งจากผลไม่เป็นทางการ ทำให้รวมแล้วตอนนี้รวมมี 151 ที่นั่ง
สิ่งที่น่ายินดี คือสถิติผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 75.71% และเมื่อจำแนกแล้ว คิดเป็นบัตรดี 94.12% บัตรเสีย 3.69% และบัตรไม่เลือก 2.19%
“ผมพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน พร้อมที่จะฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างจะทำให้ผมเป็นนายกฯ ที่ดีขึ้นในอนาคต และพวกเรายังพร้อมที่จะเคารพ ให้เกียรติ และต่อยอดกับทุกฝ่ายที่ผ่านมา เพื่อประชาธิปไตย และในขณะเดียวกันเราก็พร้อมที่จะคืนศรัทธาให้กับระบบประชาธิปไตย ระบบสภา สร้างความโปร่งใสให้กับการเมืองไทย และผู้แทนราษฎรทุกคน” พิธา ลิ้มเจิรญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลกล่าว
พรรคก้าวไกลยังเหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือนในการรวมเสียงของรัฐสภาให้ได้เกินครึ่งหนึ่ง หรือ 376 เสียง เพื่อส่ง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย The MATTER ชวนอัพเดตแนวโน้มการรวมเสียงโหวตรับรองนายกฯ โดยยึดตามรายงานผลคะแนนบนเว็บไซต์ thvote66.thematter.co ร่วมกับการสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนหลายสำนัก
ข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลรวมเสียงได้ทั้งหมด 335 เสียงจากขั้นต่ำที่ 376 เสียงหรือครึ่งหนึ่งของทั้งสองสภา โดยแบ่งเป็น
พรรคร่วมรัฐบาล 312 เสียง ประกอบด้วย
– ก้าวไกล 151 ที่นั่ง
– เพื่อไทย 141 ที่นั่ง
– ประชาชาติ 9 ที่นั่ง
– ไทยสร้างไทย 6 ที่นั่ง
– เพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง
– เสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง
– เป็นธรรม 1 ที่นั่ง
– พลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ได้แก่ ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย เป็นธรรม พลังสังคมใหม่ และเพื่อไทรวมพลัง ได้แถลงข่าวร่วมกันกรณีลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนพรรคที่ไม่ร่วมรัฐบาล แต่จะโหวตนายกฯ เสียงข้างมาก ประกอบด้วย
– พรรคชาติพัฒนากล้า 2 ที่นั่ง
– พรรคใหม่ 1 ที่นั่ง
หลังถูกกดดันจากภาคประชาชน และพรรคก้าวไกลได้ออกแถลงการณ์ยุติการร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า อย่างไรก็ตาม สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้าได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า พรรคที่รวมเสียงได้เป็นอันดับ 1 ต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เช่นเดียวกับพรรคใหม่ ซึ่งตอนแรกตอบรับเทียบเชิญร่วมรัฐบาลจากพรรคก้าวไกลเช่นกัน ถูกกระแสโซเชียลมีเดียตั้งถามถึงจุดยืนเกี่ยวกับ ม.112 ว่ามีแนวคิดเพิ่มโทษถึงขั้นประหารชีวิตหรือไม่ จนต้องออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แต่ยังยืนยันจะโหวตให้พิธานั่งนายกฯ ตากหลักการพรรคที่ได้เสียงข้างมาก
ขณะที่ คะแนนอีกส่วนหนึ่งมาจาก ส.ว. 20 เสียง ที่ได้ออกมาแสดงจุดยืนแล้ว
The MATTER ได้รวบรวม ส.ว. ที่แสดงจุดยืนโหวตสนับสนุนพิธา, ไม่โหวต, งดออกเสียง, รอตัดสินใจ รวมถึงยังไม่แสดงท่าทีไว้ใน sheet ด้านล่าง สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ที่: https://docs.google.com/spreadsheets/d/1HnOHsvHPxjwHnhRm_Ag0L5YAzip96CZfxJ8VwTcCOKU/edit?fbclid=IwAR08roLX56O7tKQ-UIziXmrTfMr3g9BCBbEnzDuMN7Ob-ZY-Ea1yEXP7Ons#gid=0
