นี่คือข่าวใหญ่จากเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์จากแคนาดาและอินเดียค้นพบสัญญาณวิทยุจากกาแล็กซี SDSSJ0826+5630 ระยะห่าง 8.8 พันล้านปีแสง ซึ่งหากนับย้อนเวลากว่าสัญญาณจะเดินทางมาถึง เท่ากับมันถูกส่งออกมาในขณะที่จักรวาลมีอายุแค่ 4.9 พันล้านปี
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า นี่คือ ‘สัญญาณ’ ที่ส่งมาจาก ‘เอเลี่ยน’
ต้องเกริ่นก่อนว่า กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ คือ ‘ไฮโดรเจน’ ธาตุอันดับที่ 1 ของตารางธาตุ เป็นธาตุพื้นฐานของแทบทุกสิ่งอย่างในจักรวาลนี้ และแปลว่า มันคึอธาตุที่พบได้มากที่สุด ทุกหนทุกแห่ง ของเอกภพ มาตั้งแต่ดวงดาวเพิ่งจะเริ่มก่อตัว
ด้วยเหตุนี้ เมื่อนักดาราศาสตร์พยายามจะศึกษาวิวัฒนาการของจักรวาล วิธีหนึ่งที่พวกเขาจะทำ ก็คือ ด้วยการศึกษาวิวัฒนาการของไฮโดรเจน ซึ่งทำได้ด้วยการจับคลื่นวิทยุ ’21 cm line’ ที่ถูกปล่อยมาจากกระบวนการของไฮโดรเจน และจะทำให้นักดาราศาสตร์พอเห็นภาพแผนผังของทั้งจักรวาล
การศึกษาครั้งนี้ก็เช่นกัน นักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุไจแอนต์เมตรเวฟ (Giant Metrewave Radio Telescope) ในอินเดีย รับสัญญาณ 21 cm line จากฟากฟ้า แต่ความพิเศษก็คือ เป็นการจับสัญญาณในความถี่ของ 21 cm line ที่คาดว่าไกลที่สุดที่เคยมีมา
นี่ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะโดยปกติ ด้วยระยะทางที่ไกลขนาดนี้ สัญญาณก็มักจะอ่อนแรงลงเมื่อเดินทางในอวกาศ จนนักดาราศาสตร์แทบทำอะไรกับมันไม่ได้ แต่กรณีนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับปรากฏการณ์ ‘gravitational lensing’ หรือปรากฏการณ์เลนส์ความโน้มถ่วง ที่ช่วยขยายสัญญาณจนกล้องโทรทรรศน์จับได้
สำหรับปรากฏการณ์เลนส์ความโน้มถ่วง เป็นผลมาจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (general relativity) ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) ซึ่งจะส่งผลให้แสงทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นถูกทำให้บิดเบี้ยวไปเมื่อเดินทางผ่านวัตถุที่มีแรงโน้มถ่วงเข้มข้น
“ในกรณีนี้ สัญญาณถูกบิดโดยการมีอยู่ของวัตถุมหึมาอีกวัตถุหนึ่ง ซึ่งก็คืออีกกาแล็กซีหนึ่ง ระหว่างเป้าหมายกับผู้สังเกตการณ์ ผลที่ตามมาก็คือ การขยายสัญญาณให้ใหญ่ขึ้น 30 เท่า ทำให้กล้องโทรทรรศน์รับสัญญาณได้” นิรูปัม รอย (Nirupam Roy) รองศาสตราจารย์จากสถาบันวิทยาศาสตร์อินเดีย หนึ่งในผู้ร่วมวิจัย กล่าว
และแม้การค้นพบครั้งนี้อาจจะไม่ได้ทำให้เราได้ศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมต่างดาวที่หลายคนตื่นตาตื่นใจ แต่ก็ถือเป็นการศึกษาที่น่าตื่นเต้นครั้งหนึ่งสำหรับนักดาราศาสตร์
เพราะด้วยการจับสัญญาณจากระยะทางอันไกลโพ้น ผ่านปรากฏการณ์เลนส์ความโน้มถ่วง อาร์นับ จักราบอร์ตี (Arnab Chakraborty) อีกหนึ่งผู้ร่วมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม็คกิลล์ จึงบอกว่า “นี่จะช่วยให้เราทำความเข้าใจองค์ประกอบของกาแล็กซีต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลจากโลกได้มากยิ่งขึ้น”
อ้างอิงจาก