เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวการกลับมาของ ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ ช้างไทยที่ได้รับการส่งตัวไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่ศรีลังกา ซึ่งปัจจุบัน ถูกส่งตัวกลับมาที่ไทยกันมาบ้างแล้ว
1.ศรีลังกา
พลายประตูผาปัจจุบันมีอายุ 49 ปี มีสภาพร่างกายที่ค่อนข้างชราและอาศัยอยู่ที่วัดพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี ซึ่งต่อมาก็มีรายงานว่าทางวัดนำพลายประตูผาออกนอกจากพื้นที่ เพราะช้างตกมันทำให้ทางไทยไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้
อย่างไรก็ดี กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะการทำงานยุทธศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่ก็มองว่าวัดกังวลกับการมาของคณะคนไทย จึงประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบและองค์กรพิทักษ์สัตว์ในศรีลังกาให้ช่วยตรวจสอบเพื่อรายงานเรื่องสวัสดิภาพสัตว์แล้ว
ปี 2544 กรมป่าไม้ส่งช้าง 2 เชือก ได้แก่พลายศักดิ์สุรินทร์ และพลายศรีณรงค์ โดยวัตถุประสงค์การขอช้างเชือกนี้ของศรีลังกามีเอกสารระบุว่า ขอนำไปแห่พระบรมสารีริกธาตุ แต่เมื่อไทยมอบให้กลับส่งพลายศักดิ์สุรินทร์ไปอยู่วัดแห่งหนึ่งไม่ไกลจากเมืองหลวง ซึ่งในปัจจุบัน พลายศักดิ์สุรินทร์กลับมาที่ประเทศไทยเพื่อรักษาอาการป่วย ทั้งยังมีสภาพผอมแห้ง กระดูกหลังโก่งนูน ขาหน้าด้านซ้ายผิดปกติ อีกทั้งทางไทยก็ระบุว่าอาจจะต้องหารือกับรัฐบาลศรีลังกาถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง
ส่วนพลายศรีณรงค์ ยังคงอยู่ในวัดที่เมืองรัตนปุระ ซึ่งก็มีรายงานว่ายังมีการใช้งานในขบวนแห่ตามวัดต่างๆ อยู่ ทั้งยังมีรานงานว่ามีสภาพการเลี้ยงดูค่อนข้างดี รูปร่างอ้วนสมบูรณ์ ได้อยู่ในเมืองที่มีน้ำตกและน้ำจากธรรมชาติ
2. เดนมาร์ก
ก่อนหน้าปี 2544 ประเทศไทยก็เคยช้างไปเป็นเป็นทูตสันถวไมตรีมาแล้ว แต่จากเอกสารของกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีรายงานว่า กรมป่าไม้ส่งออกช้าง 3 เชือก และต่อมาช้างที่ส่งไปก็ออกลูกมาอีก 1 เชือก ทำให้ปัจจุบัน เดนมาร์กมีช้างไทยรวมทั้งสิ้น 4 เชือก ได้แก่พังกันเกรา พังสุรินทร์ พลายพลายศักดิ์ พลายช้าง
3. ญี่ปุ่น
ปี 2545 ไทยส่งช้าง 2 เชือกได้แก่พลายอาทิตย์ และพังอุทัย โดยทั้งคู่เดินทางจากจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและของขวัญชิ้นใหญ่ที่ประเทศไทยได้มอบให้แก่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเฉลิมฉลองพระประสูติกาลของเจ้าหญิงไอโกะ พระราชธิดาในมกุฎราชกุมารนารุฮิโตะ
อีกทั้ง ยังเป็นการแทนคำขอบคุณต่อองค์กร OISCA (Organization for Industrial, Spiritual and Cultural Advancement) ซึ่งเป็น NGO ของญี่ปุ่น ที่ดำเนินโครงการปลูกป่าในจังหวัดสุรินทร์ครบรอบ 20 ปี โดยที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าช้างทั้ง 2 เชือกก็ได้รับความรักและความเอ็นดูจากประชาชนชาวญี่ปุ่นเสมอมา กระทั่ง ในวันที่ 24 สิงหาคม 2563 พลายอาทิตย์ล้ม (เสียชีวิต) จากอาการป่วยด้วยวัณโรค
4. สวีเดน
ปี 2547 ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยพระราชทานช้างไทยให้แก่สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟจำนวน 2 เชือก ชื่อบัวและสาวน้อย โดยการพระราชทานช้างไทยไปนี้ เป็นการแสดงออกถึงความสำคัญของมิตรภาพระหว่างไทย-สวีเดน
อีกทั้ง เมื่อพลายต้นสักที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ในโอกาสเมื่อครั้งที่สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 เสด็จฯ เยือนไทยอย่างเป็นทางการ และต่อมาพลายต้นสักก็ย้ายจากเดนมาร์กและได้ผสมพันธุ์กับพังบัว ก็ได้เกิดเป็นพลายน้ำใสเมื่อปี 2556 และพลายน้ำใสได้ย้ายไปอยู่ที่สวนสัตว์ Heidelberg เยอรมนี ตั้งแต่ปี 2564
5. ออสเตรเลีย
ปี 2549 องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งออกช้าง 8 เชือกไปประเทศออสเตรเลีย ได้แก่พลายกุ้ง, พังทองดี, พังน้ำอ้อย, พังดอกคูณ, พังพรทิพย์, พังผักบุ้ง, พังแตงโม ส่วนอีกเชือก ไม่ระบุชื่อ
โดยช้างไทยที่ถูกส่งไปออสเตรเลียเป็นไปตามข้อตกลงของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและมรดกด้านทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมออสเตรเลีย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย ซึ่งก็มีข้อมูลระบุว่าเป็นไปเพื่อแลกกับสัตว์จากออสเตรเลียมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่
ทำไมต้องต้องส่งช้างไปเป็นทูตสันถวไมตรี?
การส่งสัตว์ไปเป็นทูต เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยอดีตแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา รัฐแต่ละรัฐมักส่งเครื่องบรรณาการ ไม่ว่าเป็นเงิน ทอง เครื่องประดับ หรือแม้กระทั่งสัตว์เองก็ตาม โดยสาเหตุที่ต้องสัตว์ไปนั้น ก็มีความเห็นว่าเป็นเพราะสัตว์น่ารัก ใสซื่อบริสุทธิ์ และยังถือว่าเป็น soft power เช่นเดียวกับที่จีนส่งแพนด้าไปยังประเทศต่างๆ นั่นเอง
รวมไปถึง ในประวัติศาสตร์ของสยาม ก็พบหลักฐานว่าในสมัยรัชกาลที่ 4 ก็มีความพยายามที่จะส่งช้างไปเป็นสิ่งเชื่อมัมพันธไมตรีกับต่างชาติด้วยเช่นกัน
ส่วนสาเหตุที่ใช้ช้างเป็นทูตสันถวไมตรี นั่นก็เป็นเพราะช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยและมีความผูกพันกับชีวิตคนไทยมาช้านาน อีกทั้ง ครั้งหนึ่ง สยามก็เคยใช้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพลายศักดิ์สุรินทร์ ก็มีการเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบช้างไทยที่ยังอยู่ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะกรณีของพลายประตูผา ที่ทางไทยยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ และยังมีคนที่มองว่ารัฐบาลควรพาช้างไทยกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยอีกเช่นกัน
อีกทั้งก็ยังมีคนที่ไม่ต้องการให้ประเทศไทยส่งสัตว์ไปเป็นทูต ซึ่งทางวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้ออกมายืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีนโยบายการนำช้างส่งไปนอกราชอาณาจักรแบบในอดีตแล้ว แต่หากมีประเทศต้องการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างกัน ก็จะต้องพิจารณากันอย่างละเอียดอีกที เพื่อตั้งเงื่อนไขให้แน่ใจว่าสัตว์ที่ถูกส่งออกไปจะต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสมและไม่เข้าข่ายการทรมานสัตว์
อ้างอิงจาก
sydney.thaiembassy.org/th/content