คำพูดของ ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อการวินิจฉัยและการลงมติเมื่อวานนี้ (19 กรกฎาคม) ที่เสียงข้างมาก ‘เห็นด้วย’ กับญัตติตามข้อบังคับที่ 41 ว่า ไม่สามารถเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ในโหวตนายกฯ รอบที่ 2 ได้
โดยข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ระบุว่า ญัตติใดตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติที่ยังมิได้มีการลงมติ หรือญัตติที่ประธานรัฐสภาจะอนุญาต ในเมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป
ส่งผลให้ตลอดทั้งวันในการประชุมสภาเพื่อโหวตนายกฯ จบลงด้วยการที่ประธานสภาฯ วินิจฉัยให้ที่ประชุมลงมติ ซึ่งผลลงมติก็คือ เห็นด้วย (เสนอชื่อซ้ำไม่ได้) ถึง 395 เสียง ทำให้การเสนอพิธาเป็นนายกฯ รอบที่ 2 จึงไม่สามารถทำได้
“เราไม่ควรปล่อยให้การตีความกม. แบบผิดๆ ผ่านเลยไปจนกลายเป็นวัฒนธรรมทางการเมือง ว่าผู้มีอำนาจจะบิดเบือนกฎหมายอย่างไรก็ได้ มันสำคัญที่จะต้องสรุปและบันทึกไว้ว่าการวินิจฉัยและการลงมติของเสียงข้างมากในการ #โหวตนายกรอบ2 ในรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ” ประจักษ์ ก้องกีรติ กล่าว
อ้างอิงจาก