“NO MORE S**T AND RUN!” คำพูดของตัวเอกจากซีรีส์ It’s Bruno! ที่ทนไม่ได้กับเจ้าของสุนัขคนหนึ่งที่ไร้ความรับผิดชอบ จนสุนัขของเขาและตัวเขาเองต้องตกเป็นจำเลยในข้อหา ‘ไม่เก็บอึ’ แทน แต่ล่าสุดในโลกแห่งความเป็นจริงมีคนเสนอให้สุนัขต้องมีบัตรประจำตัว-DNA ในฐานข้อมูล เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว
คนๆ นั้นก็คือ โรเบิร์ต เมนาร์ด (Robert Ménard) นายกเทศมนตรีเมืองเบซิเยร์ของฝรั่งเศส โดยเขาเล่าว่า “ทุกๆ วันที่ผมพาสุนัขออกไปเดินเล่น ผมมักจะเห็นอึสุนัขบนทางเท้าหรือถนนเสมอ” ซึ่งเขาบอกว่า มันเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก
ดังนั้นเขาจึงเสนอนโยบายให้เก็บ DNA ของสุนัขลงฐานข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ว่า อึที่ไม่ถูกเก็บเป็นของสุนัขตัวไหนและใครเป็นเจ้าของมัน นอกจากนี้ เขายังแนะนำให้เจ้าของต้องพกบัตรประจำตัวของสุนัขติดตัวไว้อีกด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขารับรู้และให้ความร่วมมือกับนโยบายดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นโยบายนี้เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ ทางเมืองจะจัดสถานที่เพื่อตรวจ DNA ฟรีให้กับสุนัข แต่ถ้าเจ้าของไม่สะดวกก็สามารถส่งตัวอย่างน้ำลายของสุนัขมาแทนก็ได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะส่งเอกสารรับรองให้แก่เจ้าของให้ครบถ้วนก่อน
ถึงจะค่อยๆ เริ่มดำเนินการปรับเงินสำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรประจำตัวของสุนัขจำนวน 38 ยูโร (ประมาณ 1,453 บาท) และถ้าเจ้าของไม่ยอมเก็บอุจจาระก็จะถูกปรับ 122 ยูโร (ราว 4,663 บาท) ซึ่งที่ผ่านมาเมืองนี้ต้องเสียเงินไปกับการทำความสะอาดพื้นที่ด้วยสาเหตุดังกล่าวเป็นจำนวนเงินถึง 80,000 ยูโร (3,057,998 บาท) ต่อปี
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่แค่เมนาร์ดคนเดียวที่หันไปใช้มาตรการสุดโต่งเพื่อจัดการกับปัญหานี้ แต่ยังมีเมืองอื่นๆ ที่ออกนโยบายคล้ายๆ กัน เช่น เมืองเทลอาวีฟในอิสราเอลและบาเลนเซียในสเปน โดยเจ้าหน้าที่ของประเทศเหล่านี้ระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า “การปรับเงินช่วยแก้ปัญหาได้จริง”
อ้างอิงจาก