คำพูดของ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เมื่อเช้าวันนี้ (24 กรกฎาคม) ถึงประเด็นการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งสรุปใจความได้ว่า มีคณะทำงานบางส่วนจะทำหน้าที่ไปพูดคุยกับทาง ส.ว. หลังจากนั้นจะนำข้อสรุปมาพูดคุยหาแนวทางกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงประเด็นที่ว่าในขณะนี้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อการกระทำของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ว่า เช่น เราเพียงเชิญพรรคขั้วตรงข้ามมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขของ 8 พรรค ซึ่งเราแค่ไปหาเสียงเพิ่ม ไม่ใช่เป็นการจัดตั้งรัฐบาล
ไม่เพียงเท่านี้ การที่ประชาชนไม่พอใจเพราะคิดว่า การพูดคุยกับ 5 พรรคของเรา เหมือนเป็นการกดดันพรรคก้าวไกลในทางอ้อม ซึ่งเรายอมรับว่าเป็นสิทธิเสรีภาพทางความคิดของคนผู้คน แต่เราเพียงแค่หารือโดยเฉพาะประเด็น ม.112 ซึ่งเราก็จะเอาข้อสรุปไปประชุมกับ 8 พรรคร่วมพิจารณาอีกที
ทั้งนี้ ชลน่านระบุว่า เมื่อไม่ได้เสียง ส.ส.แล้ว ก็ยังมีคณะทำงานที่ไปหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. แต่ถ้าไม่ได้ ดังนั้น 8 พรรคร่วมจะเหลือทางเลือก 2 ทาง คือ
1. พรรคก้าวไกล ยอมเสียสละออกไป ซึ่งจะทำให้เราได้ทั้งเสียงจาก ส.ส. และได้เสียงจาก ส.ว. มาเติมด้วย จะได้ตั้งรัฐบาลแน่
2. ยืนหยัด 8 พรรคแล้วรอให้ ส.ว. หมดอำนาจ ซึ่งเขาเน้นย้ำว่าพยายามหาอยู่ว่าจะมีแนวทางใดที่ 8 พรรคร่วมยังอยู่ด้วยกัน หรืออย่างน้อยพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลยังจับกันอยู่ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้จริงๆ เท่ากับว่าเราก็หมดปัญญาแล้ว ทำไมไม่ส่งต่อให้คนอื่น ก็คือพรรคอันดับ 3 นั่นหมายความว่าเรายกเสียงข้างมากเราไปให้เสียงข้างน้อย
“แต่พี่น้องประชาชนอีกส่วนหนึ่ง ถ้าเทียบคะแนน เขาไม่ได้เห็นคล้อยตามที่เราเสนอ เราซึ่งหมายถึงพรรคซีกเสรีประชาธิปไตย ซึ่งผมวัดจากคะแนน ขณะที่ถ้าเราไล่เรียงกันของเขา 10 พรรคที่มัดกันแน่ ถ้ารวมเป็น 1 พรรคได้ 188 เสียง เขาเป็นอันดับ 1 นะ ในสภา พรรคก้าวไกล เป็นอันดับ 2 ได้ 151 และพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 3 คือได้ 141 เมื่อเราไม่ได้เสียข้างมากเด็ดขาด จึงมีความลำบากสักนิด สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เห็นภาพว่าทำไม พรรค พท. ถึงรณรงค์แลนด์สไลด์ เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมด สิ่งที่เราได้รับมามันไม่ถึงเป้า ต้องรับสภาพ หาวิธีการดำเนินการให้ดีที่สุด” ชลน่านระบุ
ทั้งนี้ เขากล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการขอเลื่อนการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้หรือไม่ แต่วันที่ 25 กรกฎาคมหรือวันประชุมกับ 8 พรรคร่วมจะเป็นตัวตัดสิน
อ้างอิงจาก