คำสัมภาษณ์ของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ในวันนี้ (20 กรกฎาคม) เกี่ยวกับท่าทีของพรรคเพื่อไทยนับจากนี้ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ไม่สามารถถูกโหวตเป็นนายกฯ รอบที่ 2
อย่างไรก็ดี เศรษฐาเริ่มประเด็นว่า “วันนี้จะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ส่วนจะมีความชัดเจนในการเสนอชื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ต้องรอข้อสรุปจากการประชุม”
พร้อมกล่าวประมาณว่า ในขณะนี้เขายังไม่ทราบคำตอบทั้งเรื่องยังจะจับมือกับพรรคก้าวไกลในการโหวตนายกฯ รอบหน้าหรือไม่ หรือแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยคนไหนจะถูกเสนอชื่อก่อน โดยเขาให้เหตุผลว่าต้องรอคำตอบจากทั้งการประชุมและคณะเจรจาที่จะมีการนัดคุยกันเย็นนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวถามเขาถึงประเด็นม.112 ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะทำอย่างไรไม่ให้ม.112 เป็นปัญหา?
เศรษฐากล่าวว่า “พรรคที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ต้องไม่มีเรื่องของการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 ไม่อย่างนั้น จะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.รวมถึงพรรคการเมืองอื่น คณิตศาสตร์ค่อนข้างพื้นฐานมากๆ นับดูก็รู้ว่าเรื่องอะไรเป็นอะไร ..หากมีมาตรา 112 อยู่ คงไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ พรรค”
“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ 8 พรรคก็ยังอยู่ด้วยกัน การที่จะมีการเปลี่ยนแปลงข้ามขั้ว หรือจะมีพรรคอื่นเข้ามาเสริมก็ต้องให้เกียรติกับคณะเจรจา ขอให้ใจเย็น มีอีกหลายวันก่อนจะถึงวันที่ 27 กรกฎาคม เราต้องให้เกียรติกับพรรคร่วม ซึ่งผลการโหวตเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมเป็นผลที่น่าผิดหวัง แต่ก็ต้องยอมรับและเดินต่อไป” เศรษฐาระบุ