แฮชแท็ก #wangyibo_oneandonlyTH ยังคงติดเทรนด์บนทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง หลังมีรายงานว่า ‘หวังอี้ป๋อ’ ศิลปินชื่อดังจากประเทศจีนจะบินตรงมาไทย เพื่อ “พบปะแฟนชาวไทย” แต่เมื่อถึงเวลาซื้อบัตรในรอบดังกล่าว กลับพบว่ายังมีผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากที่ไม่สามารถซื้อได้
ในวันนี้ (24 กรกฎาคม) The MATTER จึงได้สรุปเหตุการณ์และข้อสงสัยบางส่วนจากฝั่งผู้บริโภคถึงกรณีดังกล่าวกัน
เมื่อวานนี้ (23 กรกฎาคม) เวลา 10.18 น. บริษัท อาร์ท้อป มีเดีย (ARTOP Media) บริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง ‘One and Only สเต็ปกล้า ท้าฝัน’ ได้เปิดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ในรอบ Gala overseas Premiere ที่ไทยในราคา 1,500 บาท ซึ่งนอกจากผู้ซื้อบัตรจะได้ชมภาพยนตร์แล้ว ก็ยังจะได้เจอกับนักแสดงนำอย่างหวังอี้ป๋ออีกเช่นกัน
ภาพยนตร์เรื่องสเต็ปกล้า ท้าฝันรอบ Gala ที่หวังอี้ป๋อจะเข้าร่วมเปิดจำหน่าย 12 รอบ ที่โรงภาพยนตร์เซนทรัลเวิร์ลและพารากอน รวมทั้งสิ้น 5,916 ที่นั่ง
ในการจำหน่ายบัตรรอบดังกล่าว ผู้บริโภคต้องสมัครสมาชิกโดยระบุ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ต่อมาก็สามารถเข้าเว็บไซต์เพื่อรับคิวซื้อบัตรตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 23 กรกฎาคม แล้วจึงจะเปิดซื้อบัตรในเวลา 10.18 น.
เงื่อนไขในการซื้อบัตรคือผู้ใช้งาน 1 ยูสเซอร์ สามารถกดจองได้ครั้งละ 1 ใบ แต่สามารถกดจองได้หลายรอบ ทั้งนี้ บริษัทระบุว่าเพื่อป้องกันการขายต่อ และเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ ทั้งบริษัทยังมีการตอบถึงกรณีมีผู้ตั้งข้อสังเกตถึงการล็อกบัตรไว้ขายในประเทศจีนล่วงหน้า ด้วยว่า “ยังไม่มีการจัดจำหน่าย ปล่อยบัตร หรือให้อภิสิทธิ์ใดๆ แก่ผู้ใด หรือองค์กรใดทั้งสิ้น”
เมื่อถึงเวลาซื้อบัตรภาพยนตร์แล้ว กลับมีผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากที่ได้คิวน้อยกว่า 1,000 คิว แต่พอเข้าเว็บไป กลับพบว่าบัตรถูกซื้อไปหมดแล้ว ทำให้ไม่สามารถซื้อบัตรได้
อย่างไรก็ดี เมื่อเวลา 10.39 น. ของวันที่ 23 กรกฎาคม ก็มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่อ้างว่ามีเพื่อนคนจีนทักมาขายบัตรดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม ในราคา 28,000 บาท แต่เลือกที่นั่งไม่ได้ “ถ้าแบบนี้ไม่เรียกว่าล็อกเรียกว่าอะไรคะ ทำไมขายให้คนจีนก่อน เข้าไปไม่มีสักใบ คนไทยกดได้กี่คน”
อีกทั้ง ยังมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ระบุว่าเขาได้คิวที่ 1,000 กว่าๆ ซึ่งคาดว่าอย่างไรก็ซื้อบัตรทัน ทั้งเพื่อนที่รู้จักก็ได้คิวหลักสิบปลายๆ แต่ก็ซื้อไม่ทันเลย พร้อมกับแนบภาพแชทที่คล้ายกับมีการเสนอขายบัตรจาก ‘หวงหนิว’ (คนที่ซื้อบัตรไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้น) ว่ามีล็อกไว้ 15 ที่นั่ง
ต่อมา ในเวลา 13.19 น. ทางบริษัทอาร์ท้อปก็ประกาศว่า บริษัทเป็นผู้ถือสิขสิทธิ์จัดจำหน่าย ‘ในไทยเท่านั้น’ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการจัดจำหน่าย ทางเว็บไซต์หวงหนิวจีน หรือเว็บเถื่อนอื่นๆ แต่ทางฝั่งผู้บริโภคก็ยังตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า หวงหนิวหรือเว็บอื่นๆ ที่นำบัตรไปขายต่อ ก็ได้บัตรมาจากเว็บไซต์ของทางผู้จัด
ทั้งยังมีผู้บริโภคบางส่วนที่ตั้งข้อสังเกตอีกว่า กรณีนี้ ทำให้เขานึกถึงตอนงานแฟนมีตติ้งนักแสดงจากซีรีส์จีนชื่อดังอย่าง ปรมาจารย์ลัทธิมาร ที่คนไทยได้บัตรเข้างานน้อยมาก แล้วพอเข้าไปในงานก็พบว่า 70% เป็นคนจีน “ยืมประเทศจัดงานไม่เกินจริง”
ล่าสุด เมื่อเวลา 23.21 น. ของเมื่อวานนี้ ทางบริษัทออกมาประกาศว่า “เหตุเกิดจากเมื่อเช้าวันนี้ (23 ก.ค.) มีการจองคิวเข้าระบบกว่า 1 แสนUSER และการจองบัตรแบบ 1:1 ที่ทำขึ้นครั้งแรกเพื่อป้องกันการระบบ Bot กลับพบว่าคนมีการจองบัตร 1,500 บาท มาจริง แต่เกิดปัญหาไม่ชำระเงินอยู่จำนวนหนึ่ง ทางบริษัทจะดึงบัตรราคาดั่งกล่าวกลับมาจำหน่ายอีกครั้งในวันพุธที่ 26 กรกฎาคมนี้ เวลา 12.00 น.ทางเว็บไซต์ของบริษัท”
ส่วนข้อสังสัยของผู้บริโภคในประเด็นการล็อกบัตรไปขายให้คนจีน, ข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลของผู้บริโภคที่กรอกในเว็บไซต์ (ที่มีทั้งบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์) และรายละเอียดเรื่องจำนวนบัตรที่จะเปิดจำหน่ายอีกครั้งในวันที่ 26 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ทางบริษัทก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ทำให้ทางกลุ่มผู้บริโภคเปิดกูเกิลฟอร์ม เพื่อยื่นเรื่องให้ทาง สคบ.ตรวจสอบว่า บริษัทมีการล็อกบัตรเอาไว้หรือไม่ และทางสภาผู้บริโภคก็ได้ทวีตถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า “สภาผู้บริโภค เห็นว่าผู้จัดงานควรออกนโยบายคุ้มครองผู้บริโภคโดยการให้ข้อมูลสำหรับผู้บริโภคเพื่อใช้ในการตัดสินใจ ทั้งการเปิดเผยจำนวนบัตรที่จำหน่ายทั้งหมด หรือการเปิดเผยจำนวนบัตรที่คงเหลือในแต่ละรอบ ตามสิทธิผู้บริโภคที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้อง และเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าและบริการ”
อย่างไรก็ตาม The MATTER ได้ติดต่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าวไปทางบริษัทแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด และถ้าหากมีการติดต่อกลับหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานต่อไป
อ้างอิงจาก