วันนี้ (29 สิงหาคม) แพทองธาร ชินวัตร แถลงอาการของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่ามีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งเห็นได้ตั้งแต่ที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย ทั้งยังมีอาการเครียดแล้วก็เหนื่อยพอสมควร แต่ก็ยังสู้อยู่
แพทองธารยังระบุเพิ่มเติมว่า “ท่านก็มีความเปลี่ยนแปลงเยอะ” พร้อมกับเปรียบเทียบว่าไม่ต้องกับคนอายุ 74 แต่ใครก็ตามที่ต้องเจอสถานการณ์ที่เปลี่ยนที่ หรือเพียงแค่ต้องไปเรียนต่างประเทศ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกเครียดได้เช่นกัน
แพทองธารยังระบุอีกว่า ทักษิณเคยป่วยเป็น COVID-19 เมื่อปี 2020 ซึ่งเป็นการติดเชื้อในช่วงแรกๆ ที่มีการแพร่ระบาด โดยตอนนั้นทักษิณก็เข้าไอซียูไป 9 วัน และต้องแอดมิทในโรงพยาบาลราวๆ 1 เดือน พอออกจากโรงพยาบาลก็พบว่าน้ำหนักลดไปถึง 10 กิโลกรัม
อีกทั้ง จากการติด COVID-19 ในครั้งนั้น ก็ยังพบว่ามี ‘สการ์ที่ปอด’ ซึ่งหลังจากนั้นทักษิณก็พยายามออกกำลังให้ฟื้น ตัว แล้วก็พบว่าสุขภาพก็กลับมาได้ ‘เยอะพอสมควร’
อย่างไรก็ตาม แพทองธารก็กล่าวขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วง แต่เธอก็ได้มอบประวัติการรักษาทุกอย่างของทักษิณเมื่อครั้งยังอยู่ต่างประเทศให้กับแพทย์ไปหมดแล้ว พร้อมระบุว่าเธอก็เป็นห่วงทักษิณ แต่ก็ไม่ได้มีการขอย้ายออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องห้องพักที่สังคมตั้งคำถามว่าเป็นห้องหรูนั้น แพทองธารก็ปฏิเสธว่าทักษิณไม่ได้อยู่พักอยู่ในห้องดังกล่าว แต่เป็น ‘ห้องปกติ’ ที่เห็นวิวตึก แล้วก็ติดเครื่องปรับอากาศเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงประเด็นเรื่องการขออภัยโทษ ซึ่งแพทองธารก็ระบุว่า “ให้เป็นดุลยพินิจของคุณพ่อ” แล้วให้ทักษิณเป็นผู้จัดการเรื่องดังกล่าวเอง
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวที่พรรคเพื่อไทยในวันนี้ แพทองธารก็ระบุว่าเข้าพรรคเพื่อประชุมหารือเรื่อง ‘ซอฟพาวเวอร์’ ที่จะทำต่อ แล้วก็จะอัปเกรดให้เป็นไปตามที่เคยบอกประชาชนไว้
อ้างอิงจาก