เชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านประสบการณ์คล้ายคลึงกัน ที่จะหวังพึ่ง Google Maps นำทางเมื่อไปที่ซึ่งไม่คุ้นเคย แล้วก็ดันไปโผล่ในเส้นทางที่ไปต่อไม่ได้ แต่คุณก็ยังโชคดีที่มีโอกาสกลับตัวอีกครั้ง ไม่เหมือนกรณีชายชาวอเมริกาคนหนึ่ง ที่ขับรถจนตกสะพานเสียชีวิต
ด้วยเหตุว่า สะพานที่เขากำลังจะขับผ่านนั้นถล่มตั้งแต่เกือบ 10 ปีก่อน แต่ยังคงปรากฏอยู่ในแอปพลิเคชันนำทาง ทั้งที่ชาวบ้านแจ้งไปหลายครั้งแล้ว
การสูญเสียคราวนั้นเกิดขึ้นกับครัวของฟิลิป แพกซ์สัน (Philip Paxson) ชายอายุ 47 ปี ที่กำลังขับรถจากรัฐนอร์ทแคโรไลนา มุ่งหน้ากลับบ้านท่ามกลางสายฝน ในคืนวันที่ 30 กันยายนปีที่แล้ว หลังจากไปรวมงานวันเกิดครบ 9 ขวบของลูกสาว
โดยภรรยาของเขาได้ขับรถพาลูกสาวสองคนกลับบ้านไปก่อน โดยมีเขาคอยเก็บกวาด เมื่อสะอาดเรียบร้อยพอลูกสองคนนี้จึงขับรถอีกคันกลับบ้าน
แต่ด้วยความไม่คุ้นชินเส้นทางดังกล่าว แพกซ์สันจึงอาศัย Google Maps นำทางจนมาถึงสะพานที่เกิดเหตุซึ่งไม่มีสิ่งกีดขวาง หรือป้ายที่แจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ระวังอันตราย จนรถตกลงไปในแม่น้ำด้านล่าง และทำให้เขาจมน้ำเสียชีวิต
นั่นจึงทำให้วันอังคารที่ผ่านมา (19 กันยายน) ครอบครัวของเขาตัดสินใจฟ้องร้อง Google ด้วยข้อกล่าวหาว่าละเลยที่จะอัปเดตข้อมูลสะพานแห่งนี้ที่ถล่มไปตั้งแต่ราวเก้าปีก่อน
“เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับถนนในท้องที่ เขาอาศัย Google Maps โดยคาดหวังว่า Google Maps จะนำเขากลับบ้านอย่างปลอดภัยไปหาภรรยาและลูกสาว” เป็นคำแถลงการณ์ของทนายความ ซึ่งเป็นตัวแทนครอบครัวแพกซ์สัน
ทั้งนี้ ในคำฟ้องปรากฏคำกล่าวอ้างจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ได้ติดต่อ Google ไปหลายครั้งแล้ว เพื่อขอให้พวกเขาปรับปรุงแผนที่ในจุดนั้นหลังจากที่สะพานถล่ม ซึ่งทางโฆษกของ Google ชี้แจงว่า บริษัทกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาดังกล่าวนี้
นอกจากนี้ ครอบครัวยังฟ้องร้องบริษัทท้องถิ่นอีก 3 แห่ง ซึ่งมีหน้าที่บำรุงรักษาสะพานดังกล่าวอีกด้วย คงต้องรอติดตามว่าบทสรุปของคดีจะเป็นเช่นไร เพราะในบ้านเราเองก็มีกรณีที่คล้ายกันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ที่นำมาซึ่งการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
อ้างอิงจาก
theguardian