“สงสัยว่าจะต้องลงโทษกันขนาดนี้เลยหรือ”
วันนี้ (10 ตุลาคม) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลแขวงราชบุรี พิพากษาให้ วันทนา โอทอง หรือ ‘ป้านา’ ถูกจำคุก 6 เดือน 10 วัน ปรับ 1,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา กรณีที่เธอไปรอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ขณะไปลงพื้นที่ในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2566
ศาลระบุว่า วันทนาเข้าไปในเขตที่จัดไว้ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและหวงห้ามเพื่อรักษาความปลอดภัยของนายกฯ (พล.อ.ประยุทธ์) บุคคลในขบวนของนายกฯ และประชาชนอื่น โดยตำรวจแจ้งเธอแล้ว และเธอก็ทราบคำสั่งแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุสมควร
อีกทั้งวันทนายัง ‘ไม่เคยสำนึกในการกระทำความผิด’ ยืนยันต่อสู้คดีและแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ ‘ไม่เคารพยำเกรงกฎหมาย’ พฤติการจึงเป็นคดีร้ายแรง หากบังคับกฎหมายไม่จริงจัง อาจมีบุคคลอื่นทำแบบเดียวกัน จึงไม่มีเหตุอันควรรอการลงโทษ
อย่างไรก็ดี ศาลแขวงราชบุรีมีคำสั่งให้ประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์ประกันในชั้นอุทธรณ์เพิ่มอีกจำนวน 10,000 บาท รวมกับหลักทรัพย์ประกันเดิมในศาลชั้นต้น จำนวน 20,000 บาท รวมเป็นเงินประกัน 30,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์
หลังจากที่ได้ประกันตัว วันทนาก็โกนผมตัวเองที่หน้าศาลแขวง เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ถูกดำเนินคดีการเมือง
“เรายอมแพ้ไม่ได้นะ มันไม่ใช่เรื่องสำนึก หรือไม่สำนึก ป้าอึดอัดมาก อยากอาเจียนในห้องพิจารณาเลยตอนที่ฟังศาลค่อยๆ อ่านคำพิพากษาและลงโทษป้า” วันทนากล่าว
วันทนากล่าวต่อว่า “มันอึดอัด และสงสัยว่าจะต้องลงโทษกันขนาดนี้เลยหรือ”
สำหรับคดีนี้ วันทนาเคยเล่าให้กับทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ช่วงปลายปี 2565 ก่อนมีการเลือกตั้ง เธอเห็นป้าย ‘นโยบายเลิกกฎหมายรังแกประชาชน ให้เสรีภาพเท่าเทียม’ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็คิดว่าโกหก “ป้าก็คิดว่าถ้ามีโอกาสมา ป้าก็จะไปถามว่าไม่รังแกประชาชนแบบไหน”
กระทั่ง วันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการลงพื้นที่ เธอจึงไปแจ้งกับทางราชการว่าอยากพบนายกฯ ในขณะนั้น แล้วตำรวจจะอ้างเรื่องความปลอดภัย ให้เธอไปยืนบริเวณจุดอื่น แต่เธอก็ปฏิเสธ อีกทั้งตรงที่ยืน รถนายกฯ ก็ไม่ได้ไปตรงนั้น
ขณะกำลังเจรจากับตำรวจชาย ก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบหญิงมาบอกว่า ให้วันทนาใจเย็นๆ แล้วก็ยอมให้ตำรวจหญิงโอบปลอบ ก่อนที่จะถูกอุดปากแล้วดึงเข้าซอกรถตู้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่รถนักข่าวมาเห็น “นักข่าวก็บอกว่าตำรวจว่า พี่เบา ๆ หน่อย เดี๋ยวภาพออกไปไม่สวย ก่อนป้าโดนรวบตัวขึ้นรถตู้ โดยที่ไม่ได้เจอนายกฯ เลย ไม่มีโอกาสได้เจอกันเลย”
ต่อมา อัยการแขวงราชบุรีฟ้องวันทนา 3 ข้อหา ได้แก่ ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน และส่งเสียงหรือกระทำความอื้ออึงในสาธารณะ
โดยวันทนามองว่า กรณีดังกล่าว เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งตำรวจปล่อยผ่านได้ แค่ทำโทษ ตักเตือน ไม่ต้องมาถึงอัยการ ไม่ต้องมาถึงศาล “แต่นั่นเป็นเพราะเขาต้องการแค่เอาชนะประชาชน ไม่ต้องการให้ประชาชนเอาเยี่ยงอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ป้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย ไอ้เยี่ยงอย่างนี้ป้าไปด่าประยุทธ์ไหม ป้ายังไม่ได้ด่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขากำราบประชาชน ว่าถ้ามีนายกฯ มาจากไหนก็แล้วแต่ จะไม่ให้ประชาชนมาร้องเรียนอย่างนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ นายกฯ ต้องฟังเสียงประชาชน”
ส่วนสิ่งที่วันทนาต้องการจริง ๆ วันนั้น ก็เพียงอยากให้อธิบาย เรื่องป้ายนโยบายหาเสียงหยุดกฎหมายรังแกประชาชน นั้นครอบคลุมไปถึงมาตราไหนเท่านั้น
อ้างอิงจาก