เมื่อวานนี้ (2 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลออกมาสรุปมติจากการประชุมร่วมกันระหว่าง สส.และคณะกรรมบริหารพรรคว่า พรรคก้าวไกลมีมติขับ ‘วุฒิพงศ์ ทองเหลา’ สส.ปราจีนบุรี พ้นจากสมาชิกพรรค เนื่องจากปมคุกคามทางเพศ แต่ ‘ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์’ สส.เขตจอมทอง กรุงเทพฯ กลับไม่ถูกขับออกจากพรรค เนื่องด้วยเสียงสมาชิกพรรคไม่ถึง 3 ใน 4 ของผู้ที่มาประชุม
ส่งผลให้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จวบจนตอนนี้ สส.ในพรรคหลายคนเปลี่ยนภาพประจำตัวเป็นสีดำ เพื่อสื่อถึงความไม่พอใจต่อมติพรรค นอกจากนี้ ทั้ง สส.และผู้คนอีกมากมายต่างวิพากษ์วิจารณ์กับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน จน #พรรคก้าวไกล พุ่งติดอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ (X)
ดังนั้นวันนี้ The MATTER จะมาสรุปประเด็น สส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศ พร้อมกับกระแสต่อต้านจากคนในพรรคและสังคม หลังจากพรรคสรุปมติเรื่องนี้ออกมาให้อ่านกัน
1. ขอเล่าย้อนไปตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2565 กลุ่มเส้นด้ายแถลงผลการช่วยเหลือเยาวชนจำนวน 4 คน ที่ถูก อนุภาพ ธารทอง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตสาทร ลวงไปดื่มสุรา และล่วงละเมิดทางเพศ
ซึ่งผู้เสียหายทั้งหมดได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยเขาเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมใช้เงินสด 100,000 บาทเป็นวงเงินค้ำประกันเพื่อต่อสู้คดี
2. หลังจากนั้น วิโรจน์ ลักขณาอดิศร หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวถึงประเด็นนี้ พร้อมกับทางพรรคก้าวไกลยังออกมาปกป้องผู้เสียหายเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมและความปลอดภัยทั้งกายและใจอย่างถึงที่สุด และจะขับผู้ก่อเหตุให้ออกจากพรรคหากพบมีมูล
ทว่า อนุภาพตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล และดำเนินคดีกับผู้ให้ข้อมูลเท็จ
3. โฆษกหญิงพรรคก้าวไกลได้เผยแพร่ภาพคำแถลงขอโทษของ เกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร สส.ชัยภูมิ ที่ระบุว่า เขาได้ละเลยความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง และได้ละเมิดหลักการเรื่องความยินยอม จึงได้เดินทางไปขอโทษ พร้อมกับให้สัญญาว่าจะไม่ทำเช่นนี้อีก
แต่โซเชียลมีเดียของเขากลับหายไป ผู้คนก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ เช่น ทำไมโพสต์เสร็จแล้วหายไป ด้านพรรคจึงออกมาชี้แจงว่า เพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว แต่คณะกรรมการวินัยของพรรคจะรีบดำเนินการ ทั้งนี้ ผู้เสียหายชี้ว่า ได้เข้าให้ไปให้ปากคำและได้รับคำขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากนี้เราจะกล่าวถึงเคส สส.ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้
4. ต่อมา เมื่อ 11 ตุลาคม 2566 เพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ เผยแพร่แชตของผู้เสียหาย โดยทางเพจได้มีการอ้างถึง วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.จังหวัดปราจีนบุรี
ทางวุฒิพงศ์ก็ออกมาชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในแชตไม่เป็นความจริง เป็นการสร้างกระแสเพื่อให้กระทบกับเรื่องที่เขากำลังตรวจสอบอยู่ โดยเขาเน้นย้ำถึงความบริสุทธิ์
อย่างไรก็ตาม เคสนี้มีกระแสต่อต้านจากสังคมเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่แนะให้พรรคเร่งตรวจสอบและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นพรรคจึงแจงว่า ขณะนี้คณะกรรมการกำลังตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น จนเมื่อวานนี้ (1 พฤศจิกายน) พรรคมีมติขับเขาออกจากพรรค
5. วันต่อมา (12 ตุลาคม) พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล และ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการวินัยพรรค แถลงยอมรับว่า ขณะนี้พรรคมีปัญหาเรื่องคุกคามและความรุนแรงทางเพศจริง แต่ยืนยันว่าจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด
ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขากล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายเพื่อให้มาให้ข้อมูลถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทิ้งท้ายว่า พรรคจะหาวิธีป้องกันไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
6. หลังจากที่ พริษฐ์ และ ศศินันท์ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าว ก็เกิดการถกเถียงในโลกโซเชียลอย่างเป็นวงกว้าง เช่น ทำไมถึงให้ 2 คนนี้มารับหน้าแถลงและตอบคำถามสื่อ
เช่น ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นว่า เห็นใจพริษฐ์ และ สส.หญิงอีกหลายคนที่ต้องมารับหน้าที่รับผิดชอบ และยังบอกถึงผู้ก่อเหตุว่า “ไม่ต้องหนี ยอมรับผิด ขอโทษ พร้อมเข้าสู่กระบวนการ เป็นการสร้างมาตรฐานให้พรรคก้าวไกลและสังคมไทย เพื่อยุติความรุนแรงทางเพศและการคุกคามทางเพศ”
“หากพรรคยังแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ ยังล่าช้ากับการออกมาชี้แจง ระเบิดเวลาที่ชื่อว่า ‘การคุกคามทางเพศ’ อาจส่งผลต่อความนิยมของพรรคสีส้มนี้ให้ลดน้อยถอยลงไปเหมือนกับพรรคการเมืองอื่นในอดีตที่เคยเป็นมา” เขากล่าวปิดท้าย
7. ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลออกมาสรุปมติจากการประชุมร่วม สส.ว่า พรรคก้าวไกลขับ วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พ้นจากสมาชิกพรรค เนื่องจากปมคุกคามทางเพศ
8. มีรายงานจากสื่อแห่งหนึ่งระบุว่า มี สส.ฝั่งธนบุรี พรรคก้าวไกล มีพฤติกรรมชอบตีสนิท ชวนให้ดื่มแอลกอฮอล์ และเมื่อพวกเธอไม่มีสติก็จะฉวยโอกาสคุกคามทางเพศ
พร้อมทั้งเสริมว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้น สส.คนนี้ก็ติดต่อมาขอโทษ แต่บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่าย ส่งผลให้ผู้เสียหายรวมตัวกัน ซึ่งขณะนี้มีอย่างน้อย 6 คน แจ้งเรื่องนี้ให้ทางพรรคก้าวไกลทราบ นอกจากนั้นยังมีป้าย ‘ไม่เอา สส.คุกคามทางเพศ’ ติดทั่วฝั่งธนบุรี
9. กระทั่งเมื่อคืน (1 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลมีมติให้ ‘ขับ วุฒิพงศ์ ทองเหลา’ สส.ปราจีนบุรี พ้นจากสมาชิกพรรค เหตุปมคุกคามทางเพศ
แต่ด้าน ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ เขตจอมทอง ไม่ถูกตัดสิทธิพึงมีในฐานะสมาชิกพรรคทั้งหมด เนื่องจากพรรคมีมติเสียงที่ให้ออกจากสมาชิกพรรคไม่ถึง 3 ใน 4 ของจำนวนกรรมการบริหารพรรค และ สส.ที่มาประชุม
10. “การแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นสิ่งที่ควรทำ อย่าไปคิดว่าเป็นการยอมรับผิด และรอให้กระบวนการสิ้นสุด จะถือว่าเป็นมาตรฐานทางการเมืองที่ดี” ชัยธวัช ตุลาธน ระบุ
อย่างไรก็ดี เขาเสริมว่าทั้ง 2 กรณีล้วนเป็นตัวอย่างว่า แม้จะรู้หลักการว่าไม่ควรไปคุกคามทางเพศใคร และถึงจะข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความยินยอมพร้อมใจ แต่กรรมการบริหารพรรคมองว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างบุคคลที่มีอำนาจไม่เท่าเทียมกัน
11. โดยหลังจากนี้ กรรมการวินัยจะแจ้งรายละเอียดมติทุกอย่างให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องทราบ และปรับปรุงกระบวนการของพรรคให้มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของประเด็นนี้ว่าเกิดมาจากทีมงานทั้ง 3 คน ของ สส. ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ยื่นเรื่องลาออก ทำให้ตนและกรรมการบริหารพรรคทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และอาจเกี่ยวข้องกับการคุกคามทางเพศ ทำให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนขึ้น
12. ทว่าไม่นานหลังจากนั้น ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สก.พรรคก้าวไกล ได้แชร์ข่าวแถลงผลประชุม พร้อมแสดงความคิดเห็นในทวิตเตอร์ว่า “หน้าด้าน ไม่มีความละอายแก่ใจ เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน พร้อมกับแท็กหาไชยามพวาน”
และ สส.หญิงพรรคก้าวไกลหลายคน ยังเปลี่ยนรูปประจำตัวเป็นสีดำเพื่อแสดงความไม่พอใจ เช่น ศศินันท์ ธรรมนิธินันท์ สส.กรุงเทพฯ, กัลยพัชร รจิตโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ
13. ไม่เพียงเท่านั้น ปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาเปิดเผยว่า ผิดหวังต่อมติของพรรคก้าวไกล โดยกล่าวว่า “การใช้อำนาจที่ได้จากตำแหน่งของตนไปจูงใจล่อลวงบุคคลอื่นให้กระทำการตามที่ตนต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับเรื่องทางเพศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในยุคสมัยนี้”
เขากล่าวต่อว่า “ผลมติที่ออกมาวันนี้ นับว่าน่าผิดหวัง (แน่นอน ส่วนหนึ่งมาจากรัฐธรรมนูญไปบังคับว่าต้องใช้จำนวนถึง 3 ใน 4 ของจำนวน ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งถือว่าสูงมาก) ซึ่งเขาชี้ว่า ต้นเหตุมาจากการไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
14. พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “ข้อกล่าวเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศของ สส.ก้าวไกลใน 2 กรณี ถูกพิจารณาว่า มีพฤติการณ์ที่คุกคามทางเพศจริง จึงมีการเสนอให้ขับพ้นจากสมาชิกพรรค
“ผมจึงเป็น 1 คนที่ลงมติเห็นด้วยกับการขับออกคุณไชยามพวาน ซึ่งเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผยที่เพื่อนๆ สส.ทุกคนรับรู้ และเป็นการตัดสินใจบนหลักการและเหตุผลที่ผมยึดถือ” เขากล่าว
15. เมื่อ 10.30 น. ของวันนี้ รักชนก ศรีนอก สส.เขตบางบอน กรุงเทพฯ ทวีตว่า “ตัวไอซ์โหวตให้ขับออกทั้งสองกรณีค่ะ ..ซึ่งน่าผิดหวัง ที่มาตรฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่ไม่สูง ..และที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคือยังไม่ยอมรับในความผิดของตนเลยด้วยซ้ำไป ประกาศกับสาธารณชนได้หน้าตาเฉย”
เธอกล่าวต่อว่า “ในที่ประชุมหารือมีข้อตกลงกันว่า ในกรณีที่มีมติไม่ขับจะต้องให้ผู้กระทำสำนึกผิด ขอโทษสังคม และเหยื่อ ไอซ์ก็ขอตั้งตารอดูว่า คำขอโทษจะออกมาจากใจจริงๆ หรือจะเป็นแค่การแสดงอีกฉาก ที่ทำเพื่อให้รอดตัวไป” ซึ่งเธอระบุว่า จะขอหยุดร่วมกิจกรรมกับพรรค จนกว่าจะมีการแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่ออย่างจริงใจของผู้กระทำ
ทั้งนี้ ผู้คนในโซเชียลมีเดียค่อนข้างไม่พอใจ เช่น มีความเห็นให้พรรคเปิดเผยว่า 22 เสียงที่โหวตให้ไชยามพวาน ไม่พ้นสมาชิกพรรคเป็นใครบ้าง เนื่องจาก สส.ทั้งสองคนทำผิดในกรณีเดียวกัน แต่ทำไมไม่ถูกขับออกจากพรรคเฉกเช่นเดียวกัน
“ไชยาพวาน ควรลาออก” วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล กล่าว
อ้างอิงจาก