เรื่องราวนี้แทบไม่ต่างกับภาพยนตร์แนวโจรสลัดเลย เมื่อโคลอมเบียพยายามกู้คืนสมบัติหลายพันล้าน ด้วยการยกซากเรือซานโฮเซ (San José) ขึ้นมาจากใต้น้ำ หลังมันจมลงระหว่างการต่อสู้กับเรือของอังกฤษเมื่อปี 1708 หรือ 300 กว่าปีที่แล้ว
ระบุก่อนว่า ซากเรือดังถูกค้นพบเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ และยานพาหนะหุ่นยนต์ใต้น้ํา ซึ่งตําแหน่งที่แน่นอนของมันถือเป็นความลับของรัฐ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เรือน่าจะจมลงที่ไหนสักแห่งบริเวณนอกชายฝั่งของคาบสมุทรบารู ในทะเลแคริบเบียน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐบาลโคลอมเบียประกาศว่า จะพยายามกู้วัตถุที่อยู่ในซากเรืออับปางของ เกลเลียนซานโฮเซ (the galleon San José) ขึ้นมา หรือบางคนเรียกมันว่า ‘จอกศักดิ์สิทธิ์ของซากเรืออับปาง (holy grail of shipwrecks)’
เนื่องจากสมบัติเหล่านี้อาจมีมูลค่ามหาศาล ไม่ต่างกับ ‘จอกศักดิ์สิทธิ์’ ภาชนะที่พระเยซูทรงใช้รับประทานอาหารมื้อสุดท้าย ที่มีการเล่าต่อๆ กันมาว่า มันมีอำนาจวิเศษที่จะทำให้ผู้ที่ครอบครองมีอำนาจและเป็นอมตะ เท่ากับว่าจอกนี้คงราคาสูงมากแน่ๆ
โดยรัฐบาลเชื่อว่า มีวัตถุมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์อยู่ในภายใต้ซากเรือนี้ อย่างไรก็ตาม มีผู้คนส่วนหนึ่งกลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ พร้อมกล่าวว่า พร้อมกล่าวว่า “การกู้ซากเรือที่จมไปหลายร้อยปีที่แล้ว อาจจะเป็นการทําลายมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ”
นอกจากนี้ หน่วยงานหนึ่งในยูเนสโก ที่คอยปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ํา ยังได้ส่งจดหมายถึงโคลอมเบีย โดยแสดงความกังวลว่า การกู้ซากเรือในครั้งนี้ ไม่ได้คำนึงถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เลย
“เราจะเริ่มดำเนินการกู้ซากเรือซานโฮเซขึ้นมา ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ปี 2024” ฮวน เดวิด คอร์เรอา (Juan David Correa) รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของโคลอมเบีย กล่าว
พร้อมเสริมว่า “นี่คือซากปรักหักพังทางโบราณคดี ไม่ใช่สมบัติ …มันยังถือเป็นโอกาสสําหรับเราที่จะกลายเป็นประเทศระดับแนวหน้าของการวิจัยทางโบราณคดีใต้น้ํา”
ทั้งนี้ หลายคนเชื่อว่าเรือลํานี้มีเหรียญทองและเงินอย่างน้อย 11 ล้านเหรียญ และสินค้าล้ำค่าอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ที่มาจากประเทศอาณานิคมที่ถูกปกครองโดยสเปนในยุคนั้น เท่ากับว่าสมบัติเหล่านี้จะมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ (ราว 3 หมื่นล้านบาทขึ้นไป)
อ้างอิงจาก