“วันนี้ผมจะขออภิปรายประเด็นที่รัฐบาลถือเป็นวาระแห่งชาติ ก็คือปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งจากการเห็นงบประมาณสำหรับแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ผมผิดหวังมากครับ เพราะไม่สะท้อนถึงความรุนแรงของปัญหา ความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหานี้ของรัฐบาลเลย”
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณวาระแรก วันนี้ (4 มกราคม)
เขาระบุต่อว่า มันเป็นปัญหาที่ต้องแก้กันทั้งโครงสร้าง ซึ่งเขายกโมเดลการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง 5 ชั้น ที่ประกอบไปด้วย
- ฐานราก: กฎหมาย โดยทางพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมไป 4 ร่างแล้ว โดยเฉพาะร่าง พรบ.ฝุ่นพิษ และการก่อมลพิษข้ามพรมแดน
- ชั้นที่ 1: สาธารสุข ภัทรพงษ์กล่าวถึงชั้นนี้ว่า น่าผิดหวังมากครับ ที่งบประมาณกระทรวงนี้ทั้งเล่มมีเรื่อง PM 2.5 แบบผิวเผินเท่านั้น ซึ่งมีทั้งสิ้น 298.3 ล้านบาท แต่มีเพียง 2.8 ล้านบาทเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ ที่แทบจะเท่ากับงบเครื่องตรวจฝุ่นละออง 1 เครื่อง ที่จังหวัดสระบุรี นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ไม่ระบุถึงเครื่องฟอกอากาศสำหรับโรงเรียนเลย
- ชั้นที่ 2: ไฟเกษตร คณะรัฐมนตรีตั้งเป้าหมายลดพื้นที่การเผาไหม้ 21,000 ไร่ แต่จากสถิติพื้นที่เกษตรมีการเผาไหม้มากถึง 237,867 ไร่ เท่ากับรัฐตั้งงบให้แก่เรื่องนี้เพียง 10%
- ชั้นที่ 3: ไฟป่า เรามีพฤติกรรมไฟป่าตลอดทั้งปีของประเทศว่าช่วงไหน ที่ไหน ต้องเฝ้าระหว่างมากน้อยเพียงใด และงบประมาณอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีความชัดเจน ซึ่งสรุปแล้วว่างบยังกระจุกอยู่ที่ส่วนกลาง ท้องถิ่นได้ไม่ถึงครึ่งที่ต้องการ
- ชั้นที่ 4: แจ้งเตือน และเก็บข้อมูล การจะวัดค่า PM 2.5 ได้อย่างแม่นยำ เราจำเป็นต้องมีเครื่องวัดระดับค่าชั้นบรรยากาศ PBL ซึ่งรัฐบาลมีงบเท่ากับส่วนนี้ แต่จังหวัดที่ได้มีเพียง สงขลา เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ไม่เพียงเท่านั้น เรื่องการแจ้งเตือนให้แก่ประชาชนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
- ชั้นที่ 5: ศูนย์บัญชาการ กระทรวงต่างประเทศตั้งเป้าหมายที่จะลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และสภาพภูมิอากาศ 797.54 ล้านบาท แต่รายละเอียดแทบไม่มี จนไม่สามารถรู้ได้ว่างบนี้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษข้ามพรมแดนหรือไม่
ทั้งนี้ ภัทรพงษ์กล่าวถึงสถิติที่ชี้ว่าประชาชนภาคเหนือเป็นมะเร็งโรคปอดมากที่สุด แม้จะมีอัตราการสูบบุหรี่น้อยที่สุดก็ตาม แต่เขาเน้นย้ำว่าปัญหาฝุ่นพิษไม่ได้กระทบแค่ภาคเหนือแล้ว แต่กับคนทั้งประเทศ ดังนั้น รัฐบาลควรเข้าใจปัญหานี้ก่อน ถึงจะจัดงบประมาณออกมาได้
“วิกฤติที่กระทบสุขภาพ พรากชีวิตคนที่เรารักไป ทำไมรัฐบาลถึงจัดงบไว้เพียงเท่านี้ ..ของขวัญปีใหม่ที่คนไทยอยากได้มากที่สุด ไม่ใช่คำอวยพร แต่เป็นอากาศบริสุทธิ์ ที่ทำให้พวกเราไม่ต้องยิ้มให้กันภายใต้หน้ากากอนามัยอีก”
อ้างอิงจาก