“รัฐบาลเศรษฐาไม่ได้นำความเหลื่อมล้ำมาเป็นปัจจัยในการจัดสรรงบประมาณเลย”
วันนี้ (5 มกราคม) ระหว่างการประชุมสภาถกงบปี 2567 วันที่ 3 ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เริ่มต้นอภิปรายถึงประเด็น ‘วิกฤติความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาพื้นที่’ ว่า
“กรุงเทพฯ รวยกว่าชนบท หัวเมืองหลักได้รับการพัฒนามากกว่าหัวเมืองรอง ทำให้ประชาชนต้องจำเป็นต้องหาโอกาสและเงินในเมืองใหญ่”
เธอกล่าวต่อว่า งบประมาณของปี 2567 จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร เมื่อรายได้ครัวเรือนของกรุงเทพฯ ยังมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศมากถึง 46% นอกจากเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการศึกษาก็มีปัญหาความเหลื่อมล้ำเช่นกัน เพราะการศึกษาดีกระจุกอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีความเหลื่อมล้ำในด้านการแพทย์ ในกรุงเทพฯ หมอ 1 คน ดูคนไข้ 500 คน แต่หนองบัวลำพู หมอ 1 คน ดูแลคนไข้เกือบ 5,000 คน
“การจัดงบประมาณของท่านไม่มีเจตนาในการกระจายอำนาจเลย แต่เหมือนต้องการกระชับอำนาจมากกว่า ..รัฐบาลเพิ่มงบจังหวัด-กลุ่มจังหวัดมากขึ้นจริง แต่ถ้าลองไปดูไส้ในแทบจะไม่มีอะไรเลย เพราะเต็มไปด้วยความซ้ำซ้อน ไม่จำเป็น ซึ่งก่อนหน้าเราเคยปรับลดส่วนนี้กันไปแล้ว” ภคมน ระบุ
เธอชี้ว่า งบจำนวน 23,076 ล้านบาทแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลต้องการเพื่มบทบาทและอำนาจให้กับข้าราชส่วนภูมิภาค ซึ่งผู้ที่กำหนดงบดังกล่าวคือ คณะกรรมการบูรณาการนโยบาย แต่กลับไม่มีตัวแทนภาคประชาสังคมจริงๆ
และที่สำคัญยังรัฐบาลยังจัดสรรงบให้กับจังหวัดที่ใหญ่และรวย เท่ากับว่าจังหวัดไหนมีประชาชนและมีความเจริญทางเศรษฐกิจเยอะ ถึงจะได้งบเยอะ และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอีกหลายๆ ปี จังหวัดที่ได้รับงบอย่างจำกัดจะเป็นอย่างไร
เช่น จังหวัดนนทบุรีมีรายได้ครัวเรือนเดือนละ 41,000 บาท จังหวัดพะเยามีรายได้ฯ 16,000 บาท แต่งบจังหวัดได้ 200 กว่าล้านเท่ากัน และจังหวัดปัตตานีมีสัดส่วนคนจนมากที่สุด แต่จังหวัดสมุทรปราการที่มีจำนวนคนจนแทบจะน้อยที่สุดในประเทศกลับได้งบ 300 ล้านบาทเท่ากัน
ท้ายที่สุดแล้ว งบจังหวัด-กลุ่มจังหวัดปีนี้ เน้นไปที่การสร้างถนน สะพาน ไฟส่องสว่าง ไฟจราจร และรองลงมาคือ เขื่อนป้องกันตลิ่งแหล่งน้ำ ซึ่งส่วนที่ได้รับน้อยที่สุดคือ อบรมสัมมนา ค่าวิทยากร
“ฉันไม่ได้จะบอกว่าถนนไม่สำคัญ แต่รัฐบาลต้องพัฒนาอย่างอื่นด้วย เช่น การศึกษา สาธารณสุข ขนส่งสาธารณะ ดังนั้นควรลงพื้นที่ตรวจสอบแต่ละพื้นที่ว่ามีปัญหาอะไร และอยากให้ถ่ายโอนอำนาจให้แก้ท้องถิ่นไปเลย เพื่อให้พวกเขามีอำนาจพัฒนาพื้นที่ของตัวเอง” เธอกล่าวปิดท้าย
อ้างอิงจาก