จะเป็นยังไงถ้าผู้กำกับ นักแสดง และทีมงานทุกคนขึ้นไปถ่ายหนังกันบนอวกาศ!
ในที่สุดก็เกิดขึ้นกับย่างก้าวแห่งประวัติศาสตร์ที่มวลมนุษยชาติสามารถขึ้นไปถ่ายทำภาพยนตร์บนสถานีอวกาศได้สำเร็จ จนเกิดเป็น The Challenge ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ว่าด้วยปฏิการกู้ชีพสุดระทึกที่ศัลยแพทย์ทรวงอกอย่าง ดร.เซนยา บีเลียเยวา ต้องแข่งกับเวลาและสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงเพื่อผ่าตัดนักบินอวกาศหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่บนสถานีอวกาศรัสเซีย เธอต้องก้าวข้ามความลังเลในใจ เยียวยาบาดแผลในอดีต เพื่อรักษาผู้ป่วยที่อยู่สูงจากพื้นโลกกว่า 400 กิโลเมตร
ย้อนกลับไปในปี 2020 นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง ทอม ครูซ (Tom Cruise) เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะร่วมมือกับองค์การนาซ่าแห่งสหรัฐ เพื่อส่งมนุษย์ขึ้นไปถ่ายหนังกันบนอวกาศให้จงได้ อย่างไรก็ดี ทอม ครูซ ฮอลลีวูด และนาซ่าคงไม่ทันเอะใจว่าจะมีชาติอื่นปาดหน้า คว้าตำแหน่ง ‘มนุษย์กลุ่มแรก’และ ‘ภาพยนตร์เรื่องแรก’ ที่ขึ้นไปถ่ายทำจริงบนอวกาศ ซึ่งผู้ที่ทำได้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสถานีโทรทัศน์รัสเซียอย่าง Channel One และ ROSCOSMOS องค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซียที่ร่วมมือกันเนรมิตภาพยนตร์ที่อยู่เหนือความคาดคิดได้สำเร็จ
เพราะฉะนั้น หากจะบอกว่านี่คือการย้ำแค้นของรัสเซียที่สามารถเอาชนะอเมริกาได้อีกครั้งเหมือนตอนที่ขึ้นไปถึงอวกาศได้ก่อนเมื่อปี 1961 ก็ดูจะไม่เกินจริง
ในส่วนของการถ่ายทำ ผู้กำกับอย่าง คลิม ชิเพนโก (Klim Shipenko) ที่คลั่งไคล้กาแล็กซี่เป็นทุมเดิมก็รู้สึกเหมือนกับฝันเป็นจริง แม้จะหนักหนาสาหัส แต่เขาก็พยายามขัดเกลาบทภาพยนตร์ให้สามารถถ่ายทำได้จริง ณ สภาพแวดล้อมเหนือน่านฟ้า ทั้งยังต้องออกแบบมุมกล้องให้สอดคล้องกับพื้นที่อันจำกัดในสถานีอวกาศ นับเป็นประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้กำกับทุกคน
ยิ่งไปกว่านั้น อีกหนึ่งขั้นตอนที่ต้องพิถีพิถันกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ คือการคัดเลือกนักแสดง คลิมไม่เพียงต้องเฟ้นหานักแสดงหญิงที่มีทักษะทางการแสดงในระดับยอดเยี่ยม แต่เธอคนนี้ยังต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง อึดพอจะเดินทางไกลและรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แถมยังต้องกล้าบ้าบิ่นพอที่จะขึ้นไปบนอวกาศ ดินแดนซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะอยากเอาตัวเองขึ้นไปเสี่ยง
และตำแหน่งผู้ถูกเลือกก็ตกเป็นของ ยูเลีย เพเรซิล์ด (Yulia Peresild) นักแสดงวัย 30 ที่คว้าบท ดร.เซนย่า ศัลยแพทย์ที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำภารกิจผ่าตัดผู้ป่วยบนสถานีอวกาศ ตลอดความยาวกว่า 2 ชั่วโมง 44 นาที ดร.เซนย่าจึงทำหน้าที่แทนสายตาผู้ชม ไล่ตั้งแต่การฝึกฝน เตรียมความพร้อม และเดินทางออกจากดาวโลกที่อยู่มาตลอดชีวิต
เฉพาะขั้นตอนการเตรียมตัว คลิมและยูเลียต่างต้องเข้าคอร์สฝึกฝนอย่างหนักตลอด 5 เดือนเต็ม ทั้งคู่ต้องเรียนรู้ข้อปฏิบัติเบื้องต้นในการอยู่บนสถานีอวกาศ ต้องเข้าใจความรู้กลศาสตร์พื้นฐาน รวมทั้งต้องฝึกใช้ชีวิตในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงเพื่อให้การถ่ายทำดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไร้ปัญหา
และแล้ววันถ่ายทำก็มาถึง คลิมและยูเลีย พร้อมนักบินอวกาศตัวจริงอย่าง อันตอน อาห์คาพลิรอฟ (Anton Ahkaplerov) ต้องทะยานสู่ฟากฟ้า และใช้เวลาถ่ายทำภาพยนตร์นาน 12 วันเต็ม เป็น 12 วันที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ทางกลางหมู่ดาวและแสงจันทร์ เป็น 12 วันแห่งประวัติศาสตร์ที่เกิดจากความทะเยอทะยานของทุกฝ่าย ซึ่งทุกฝ่ายในที่นี้ หมายรวมไปถึงเจ้าหน้าที่สถานีอวกาศที่ต้องผันตัวมาเป็นทีมงานจำเป็น แถมบางคนถึงขั้นได้รับบทนักแสดงประกอบพ่วงด้วย
ห้วงเวลา 12 วัน แปรเปลี่ยนมาเป็นภาพเคลื่อนไหวความยาว 30 ชั่วโมง คัดแล้วคัดอีกจนเหลือ 35 นาทีที่เราคนดูจะได้ตื่นตะลึงกับอวกาศบนจอภาพยนตร์ เป็นความสมจริงสุญญากาศที่ไม่ผ่านกระบวนการเทคนิคพิเศษใดๆ จะเรียกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ ไปได้ไกลกว่าความเป็นภาพยนตร์ก็คงไม่ผิด
ถึงตรงนี้ เราคงพูดได้ว่า The Challenge ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์ที่บอกเล่าภารกิจสุดท้าทาย ทว่าแต่ละขั้นตอนของการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ท้าทายไม่แพ้กัน ส่วนเรื่องราวที่บอกเล่าจะตื่นเต้นและสมจริงแค่ไหนนั้น ทุกคนคงต้องไปติดตามต่อในโรงภาพยนตร์
ชมตัวอย่าง The Challenge ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Bji3mlWeQX4
และรับชมภาพยนตร์สุดท้าทายได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
อ้างอิงจาก
https://www.metacritic.com/movie/the-challenge/
https://www.semafor.com/article/04/20/2023/russia-space-movie-the-challenge-reviews