สรวงสวรรค์กลางขุมนรก!
ชาวยิวนับพันต้องสังเวยชีวิตในเตาเผาของค่ายกักกัน แต่เชื่อหรือไม่ว่าห่างจากจุดนั้นเพียง 150 เมตร คือสถานที่สุดพิเศษที่หลายคนยกให้เป็นสวรรค์บนดิน
“สวนของภรรยาผมเป็นเหมือนสวรรค์ที่อบอวลไปด้วยดอกไม้” คือคำบรรยายที่ รูดอล์ฟ เฮิส (Rudolf Höss) ผู้บัญชาการค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ (Auschwitz) เขียนไว้ในอัตชีวประวัติของตัวเอง ถ้อยคำสั้นๆ นี้สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบายที่ลูกชาย ลูกสาว และภรรยาของเขาได้รับในสถานที่ที่เรียกได้เต็มปากว่าบ้าน แต่แท้จริงแล้ว เมื่อพ้นจากรั้วสีขาวอันวิจิตรบรรจง ที่ตั้งอยู่ตรงนั้นคือแดนสังหารที่เป็นดั่งขุมนรกของชาวยิว เป็นแหล่งจองจำและเตาเผาที่คร่าชีวิตคนทั้งเป็นโดยที่ลูกๆ ของรูดอล์ฟยังแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดที่ว่ามาจะถูกบอกเล่าอย่างถึงแก่นใน The Zone of Interest
The Zone of Interest หรือ ‘วิมานนาซี’ คือภาพยนตร์จากค่าย A24 ที่มีดีกรีเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง5 สาขา โดยบทภาพยนตร์ถูกดัดแปลงจากหนังสือชื่อเดียวกันของ มาร์ติน เอมิส (Martin Amis) ที่เล่าเรื่องจริงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของคฤหาสน์ในฝัน บ้านสุขสันต์ของผู้บัญชาการรูดอล์ฟ ซึ่งอยู่ติดกับค่ายสังหารที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันทั้งหมดของนาซีเยอรมนี
โดยก่อนจะเริ่มสร้างสรวงสวรรค์ รูดอล์ฟจัดการไล่ชาวบ้าน 9,000 คนออกจากพื้นที่กว่า 41 ล้านตารางเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกได้รับรู้ถึงความป่าเถื่อนที่ปรากฏภายในค่าย และในระหว่างจัดสรรพื้นที่ภายนอกค่ายกักกันนั้นเอง เขาก็ตัดสินใจเจียดพื้นที่ส่วนหนึ่งมาใช้ปลูกคฤหาสน์ของครอบครัว
วิมารนาซีแห่งนี้มี 2 ชั้น เป็นอาคารสีขาวหรูหราที่เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นสั่งทำมาอย่างดี รอบตัวบ้านรายล้อมด้วยสวนหย่อมและกำแพงสูง โดยรูดอล์ฟตั้งใจจะใช้ร่มไม้และกำแพงในการบดบังสายตาของคนในบ้านจากความโหดร้ายที่อยู่ห่างไปไม่ถึง 200 เมตร เป็นความโหดร้ายที่ท้ายที่สุด คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากกว่า 3 ล้านคน
หลังจากเนรมิตคฤหาสน์เสร็จสิ้น รูดอล์ฟไม่เพียงนำผู้ต้องขังในค่ายส่วนหนึ่งมาเป็นแรงงานทาสในบ้าน แต่ยังยึดทรัพย์สินและของมีค่าจากคนตายมาครอบครองด้วย โดยอดีตชาวสวนคนหนึ่งในคฤหาสน์อย่างผู้บัญชาการ สตานิสลอว์ ดูเบียล (Stanislaw Dubiel) ได้ให้การต่อศาลหลังสงครามจบว่า
“ผู้บัญชาการเฮิสจัดสรรทุกอย่างให้ครอบครัวอย่างงดงาม จนภรรยาของเขาถึงกับเคยพูดออกมาว่า ‘ฉันอยากอยู่และตายที่นี่’ พวกเขามีครบทุกอย่างในคฤหาสน์ ไม่เคยขาดเหลืออะไร ทั้งยังมีเสบียงมหาศาลและสินค้าทุกประเภทสะสมอยู่ในค่าย”
ความหรูหราที่แสนหอมหวานนี้ขัดแย้งสิ้นเชิงกับสิ่งที่อยู่ภายนอก มันน่าตกใจไม่น้อยที่ในพื้นที่หนึ่งมีการสังหารหมู่ แต่บ้านข้างๆ กลับมีครอบครัวของฆาตกรเสวยสุขและแทบจะไม่รับรู้อะไรเลย โดยนอกจากแมกไม้และกำแพงที่รูดอล์ฟใช้ปิดบังความจริงกับลูกๆ แล้ว ทุกครั้งที่มีการสังหารชาวยิวด้วยกระบอกปืน เขาจะสั่งให้นายทหารนำรถจักรยานยนต์มาวางไว้รอบบ้าน แล้วบิดคันเร่งให้เกิดเสียงดัง หวังใช้เสียงของพาหนะช่วยกลบเสียงกระสุนปืนและเสียงกรีดร้องอันไร้จุดจบในแดนประหาร
ความน่าสะพรึงที่เกิดขึ้นจะถูกถ่ายทอดอย่างไรบนจอภาพยนตร์ และเราจะเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่แสนเลวร้ายนั้นอย่างไร ทั้งหมดทั้งมวลคงต้องไปติดตามกันในโรงภาพยนตร์
ดูตัวอย่าง The Zone of Interest ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=qoR_PXe6Iak
และชมภาพยนต์ได้แล้ว โดยเปิดรอบพิเศษตั้งแต่วันที่ 1-3 มีนาคม และรอบปกติตั้งแต่ 7 มีนาคมเป็นต้นไป
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/photo/?fbid=416659054208992&set=pb.100075947035513.-2207520000