คุณคิดว่าเสียงที่เบาที่สุดในโลกคืออะไร? เสียงกระซิบ เสียงฝน หรือความเงียบในห้องนอนของตัวเองยามดึก? เสียงเหล่านั้นคงจะดูดังไปเลย ถ้าหากได้เข้าไปอยู่ ‘ห้องไร้เสียงสะท้อน’ ในสหรัฐฯ
ห้องไร้เสียงสะท้อน อยู่ที่ห้องแล็บออร์ฟิลด์ (Orfield Laboratories) ในรัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา จนได้บันทึกสถิติโลกใน Guinness World Record ว่าเป็นสถานที่ที่เงียบที่สุดในโลกในปี 2021
ห้องนี้มีความเงียบในระดับติดลบเดซิเบล ซึ่งเป็นเสียงที่ต่ำกว่าเกณฑ์ความดังที่มนุษย์จะสามาถรับรู้ได้ด้วยซ้ำ โดยไปในปี 2004 ห้องวัดความดังได้ที่ -9.4 dBA (เดซิเบลแบบ A-weighted เป็นการถ่วงน้ำหนักเพื่อให้เห็นภาพการได้ยินของมนุษย์ได้ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น) และในปี 2012 วัดได้ -13 dBA
แต่หลังจากนั้น ปี 2015 ก็มีผู้ท้าชิงเป็นห้องแห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตัน ที่สร้างสถิติใหม่ไว้ที่ -20.35 dBA แต่แล้วห้องแล็บออร์ฟิลด์ก็กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน 2021 โดยวัดได้ที่ -24.9 dBA
ด้วยความเงียบขนาดนี้ ผู้ที่เข้าชมห้องแล็บนี้เล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงสูบฉีดเลือดอยู่ในหัวของตัวเอง และยังได้ยินเสียงตอนกะพริบตาอีกด้วย
“เมื่อทุกอย่างเงียบ หูของเราจะปรับตัว” สตีเวน ออร์ฟิลด์ ผู้ก่อตั้งห้องแล็บนี้เล่ากับ Daily Mail เมื่อปี 2012 ว่า “ยิ่งห้องเงียบเท่าไร คุณจะได้ยินเสียงของสิ่งต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น อาจเป็นเสียงหัวใจเต้น เสียงปอด เสียงท้องร้อง เพราะเมื่อห้องนี้ไร้เสียงสะท้อน คุณเองนั่นแหละจะกลายเป็นเสียง”
แล้วต้องทำอย่างไรห้องถึงเงียบได้ขนาดนี้?
ห้องไร้เสียงสะท้อน ออกแบบขึ้นโดยการหยุดคลื่นเสียงไม่ให้สะท้อนออกจากผนัง มันเป็นเสมือนกล่องที่มีผนังเหล็ก แขวนด้วยสปริงอยู่ในกล่องที่ขนาดใหญ่กว่า และซ่อนอยู่ในห้องที่มีผนังคอนกรีตหนา 1 ฟุต เมื่อเข้าไปเราจะถูกล้อมรอบด้วยแผ่นไฟเบอร์กลาสสีน้ำตาลแข็ง ทั้งผนัง เพดาน และพื้น ซึ่งจะเป็นตัวที่ดูดซับเสียงจากทุกด้าน
สำหรับมนุษย์ที่คุ้นชินกับความวุ่นวาย การไปอยู่ในห้องเงียบๆ แห่งนี้อาจทำให้เรารู้สึกไม่ปกติก็เป็นได้ โดยสตีเวนเล่าว่า สมองอาจจะรับรู้และปรับสมดุลของร่ายกายไม่ได้ จนไม่สามารถยืนหรือควบคุมทิศทางได้ตามปกติ ถ้าจะอยู่เกินครึ่งชั่วโมง ก็ควรนั่งลงจะดีกว่า
หากอยากสัมผัสกับความเงียบที่ดังที่สุดในชีวิตเช่นนี้ ห้องจะเปิดให้เข้าชมรอบละ 5 คน ที่ราคา 75 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,700 บาท) ต่อ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าอยากลองสัมผัสประสบการณ์นี้คนเดียว ก็สามารถจองห้องส่วนตัวได้ในราคา 400 ดอลลาร์ (ประมาณ 14,400 บาท)
นอกจากนั้นผู้ชมยังสามารถเข้าชมห้องแล็บออร์ฟิลด์ได้รอบละ 1 ชั่วโมงครึ่ง ในราคา 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 7,200 บาท) เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เพราะนอกจากจะมีห้องที่เงียบที่สุดแล้ว อาคารเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ 1970 นี้ยังเคยเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเคยมีนักดนตรีชื่อดังอย่างบ็อบ ดิลลัน (Bob Dylan) และวงพรินซ์ (Prince) มาเยี่ยมเยียนอีกด้วย
ไม่เพียงแต่เปิดให้บริการสำหรับคนทั่วไปที่สนใจเท่านั้น เพราะบริษัทต่างๆ ที่ทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเสียงยังนำสินค้ามาทดสอบได้อีกด้วย เช่น จอ LED ที่มาทดสอบว่าทำลำโพงมาเสียงดังไปหรือไม่ Harley-Dividson ก็นำรถจักรยานยนต์รุ่นที่ทำให้เสียงเบาลงมาทดสอบ และ NASA ที่ส่งนักบินอวกาศเข้ามาให้ฝึกปรับตัวกับความเงียบของอวกาศ
อ้างอิงจาก