เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในการเมืองต่างประเทศ เมื่อนายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก (Robert Fico) ของสโลวาเกียถูกยิงและได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งถือเป็นการกระทำที่รุนแรง และสั่นคลอนการปกครองประเทศของเขา
รัฐมนตรีกลาโหม โรเบิร์ต คาลินัก (Robert Kalinak) แถลงในเวลาต่อมาว่า ฟิโกมีอาการบาดเจ็บและต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นเวลาหลายชั่วโมง และอาการของเขาในค่อนข้าง ‘ซับซ้อน’ ขณะที่ผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวและยังไม่ทราบแรงจูงใจที่ชัดเจน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันพุธ (15 พ.ค.) ที่ผ่านมาในเมืองฮันโลวา ขณะที่นายกฯ เข้าร่วมประชุมที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งหนึ่ง ภาพในวิดีโอที่เผยให้เห็นนายกฯ เดินกับผู้ติดตามออกไปหาสาธารณชนที่ยืนอยู่ด้านนอกและเริ่มทักทาย เวลานั้นชายในเสื้อเชิ้ตติดกระดุมเริ่มยิงในระยะใกล้ 5 นัด ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าสกัด
หลังจากที่ถูกพาตัวขึ้นรถสีดำ ฟิโกก็ถูกส่งตัวไปรักษาต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาล ในช่วงดึกของวันเดียวกัน โทมัส ตาราบา (Tomas Taraba) รองนายกรัฐมนตรี บอกกับ BBC ว่า การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี และคาดว่าจะรอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการอัปเดตอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับอาการของฟิโก
ซูซานา คาปูโตวา (Zuzana Caputova) ประธานาธิบดีสโลวาเกียบอกว่า การโจมตีนายกฯ ถือเป็นการโจมตีมนุษย์ และประชาธิปไตยด้วย เธอเรียกร้องให้ประชาชนอย่าด่วนตัดสินอะไรก่อนที่จะทราบข้อมูลเพิ่มเติม
“ความพยายามลอบสังหารครั้งนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง และแรงจูงใจนี้เกิดขึ้นทันทีหลังการเลือกตั้ง” มาตุส ซูทัจ เอสตอก (Matus Sutaj Estok) รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยพูดที่โรงพยาบาล
ขณะที่ผู้นำทั่วยุโรปและทั่วโลกแสดงความตกใจและไม่พอใจต่อการโจมตีดังกล่าว
“เราขอประณามการกระทำรุนแรงอันน่าสยดสยองนี้ สถานทูตของเราติดต่อกับรัฐบาลสโลวาเกียอย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ” ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง
ฟิโกดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสโลวาเกียหลายสมัย โดยล่าสุดกลับคืนสู่อำนาจหลังจากชนะการเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ในปี 2561 เขาถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่ง จากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องความกรณีความไม่พอใจของประชาชนเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารนักข่าวคนหนึ่ง ที่เขาตั้งคำถามว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมาเฟียชาวอิตาลี ตลอดจนความคับข้องใจของประชาชน ต่อนโยบายเรื่องวิกฤตค่าครองชีพ
หลังจากเกิดเหตุนี้ขึ้น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เป็นหนึ่งในผู้ที่ประณามเหตุกราดยิงดังกล่าวด้วยว่า “ไม่มีเหตุผลสำหรับอาชญากรรมร้ายแรงนี้ ผมรู้ว่าโรเบิร์ต ฟิโกเป็นคนกล้าหาญและมีจิตใจเข้มแข็ง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้เขารอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ได้”
อ้างอิงจาก