ขณะนี้ทั่วโลกกำลังจับตามองสถานการณ์ในฉนวนกาซาอย่างใกล้ชิด พร้อมตั้งคำถามว่าอนาคตของภูมิภาคตะวันออกกลางจะเป็นอย่างไร หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างอิสราเอลและฮามาส
หลังจากตัวแทนของอิสราเอล และฮามาส พร้อมทั้งประเทศผู้ไกล่เกลี่ยอย่าง สหรัฐฯ และกาตาร์ ได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นทางการ ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 มกราคม) นายกรัฐมนตรีกาตาร์ก็ประกาศว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้ (19 มกราคม) โดยรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีของอิสราเอล
ข้อตกลงดังกล่าว อาจดูเหมือนความหวังใหม่ของผู้คนในฉนวนกาซา แต่ความจริงที่เกิดขึ้น คือการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความสูญเสียในฉนวนกาซายังไม่สิ้นสุดลง
Mahmoud Basal โฆษกของการป้องกันพลเรือนของกาซา กล่าวเมื่อบ่ายวานนี้ (16 มกราคม) ว่านับตั้งแต่มีการประกาศข้อตกลง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 77 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 250 ราย จากการโจมตีของอิสราเอล โดยจำนวนผู้เสียชีวิต รวมถึงเด็ก 21 รายและผู้หญิง 25 ราย
แม้หลายฝ่ายคาดว่า ข้อตกลงหยุดยิงนี้จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ในวันอาทิตย์นี้ แต่ชาวปาเลสไตน์ที่ต้องทนทุกข์กับความรุนแรงมาถึง 15 เดือน กลับไม่รู้สึกสบายใจไปมากกว่าเดิม
“ขณะที่เรากำลังเฉลิมฉลองการประกาศหยุดยิง เครื่องบินรบของอิสราเอล ก็สร้างความตกใจให้กับเรา” อัลฮัจญ์ อาลี (al-Haj Ali) เด็กชายชาวปาเลสไตน์ กล่าวกับสำนักข่าว Al Jazeera
คืนเมื่อวานนี้ (16 มกราคม) อัลฮัจญ์ อาลี ถูกดึงออกมาจากซากบ้านตัวเองที่ปรักหักพัง เนื่องจากถูกโจมตีทางอากาศ อีกทั้งเด็กชายคนนี้เล่าว่า เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล ด้วยอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ และพบว่าพี่น้องและน้าของเขาเสียชีวิตทั้งหมด
นอกจากนี้ สถานการณ์หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิงยังคงไม่แน่นอน ซึ่งวันนี้ เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ประกาศเลื่อนประชุมลงมติคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (16 มกราคม) โดยเนทันยาฮูอ้างว่า กลุ่มฮามาสพยายามเปลี่ยนแปลงข้อตกลง และ “เรียกร้องการประนีประนอมในนาทีสุดท้าย”
เท้าความว่า หลังจากการเจรจากันมานานหลายเดือน แม้ว่าคณะผู้เจรจาของอิสราเอล จะตกลงตามข้อตกลงดังกล่าวได้ แต่ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักงานนายกของอิสราเอล ได้ยืนยันว่า เนทันยาฮูได้สั่งให้คณะรัฐมนตรีการเมืองและความมั่นคง ประชุมเพื่ออนุมัติข้อตกลงการ ‘ปล่อยตัวตัวประกัน’ ภายในวันนี้ และรัฐบาลอิสราเอล ก็จะประชุมเพื่ออนุมัติข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
ความไม่แน่นอนของสถานการณ์นี้เอง ที่ทำให้จนถึงตอนนี้ ชาวปาเลสไตน์ยังคงรอคอยการยืนยันข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างฮามาสและอิสราเอล อย่างกระวนกระวายใจ
“จนถึงตอนนี้ ข่าวเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ค่อนข้างตึงเครียด […] เราจึงติดตามข่าวตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งข้อตกลงนี้ก็อาจล้มเหลวได้ เพราะอิสราเอลไม่ต้องการให้ฉนวนกาซาและประชาชน ได้หายใจและอยู่อย่างสงบ” มูฮัมหมัด อัล-เฮบบิล (Muhammad al-Hebbil) วัย 37 ปี ชาวปาเลสไตน์ ผู้ต้องอพยพในช่วงต้นของสงคราม กล่าวกับสำนักข่าว The Guardian
เขากล่าวต่อว่า “ตอนนี้ทุกคนอยากเข้านอน และตื่นขึ้นมาอีกทีในวันอาทิตย์ เมื่อการสู้รบยุติลง เพราะการรอคอยเป็นเรื่องยากมาก”
สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ในไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายก่อนการหยุดยิง อิสราเอลได้โจมตีฉนวนกาซาอย่างหนัก ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มปฏิบัติการทางทหาร เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และสร้างความสูญเสียในนาทีสุดท้ายให้กับศัตรู
แต่ดูเหมือนว่าความสูญเสียจะเกิดกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเฮบบิลเล่าว่า “ตั้งแต่ตกลงกันได้ การโจมตีด้วยระเบิดยังไม่หยุดลงรอบๆ ตัวเรา” โดยเขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกับศพของพี่ชาย ที่เสียชีวิตระหว่างการโจมตีเมื่อคืนนี้ และเล่าว่า ชายคนนั้นกรีดร้องและพูดกับพี่ชายว่า “ทำไมเธอถึงไปตอนนี้ ฉันกำลังจะบอกเธอว่าสงครามสิ้นสุดลงแล้ว”
เมื่อถามความเห็นเกี่ยวกับความเป็นได้ของข้อตกลงหยุดยิง ชาวกาซาจำนวนมากหวั่นเกรงว่า อิสราเอลจะกลับมาโจมตีอีกครั้ง หลังการหยุดยิงระยะแรก (จากทั้งหมด 3 ระยะ ตามข้อตกลง) สิ้นสุดลง
เอมัน (Eman) นักศึกษาแพทย์วัย 19 ปี ผู้อาศัยในฉนวนกาซา กล่าวกับ The Guardian ว่า “ผมยังคงมองโลกในแง่ร้าย ผมรู้สึกว่าเราจะถูกทรยศ และการหยุดยิงจะถูกยกเลิก แม้ว่าจะลงนามในข้อตกลงแล้วก็ตาม”
เขากล่าวต่อว่า “ผมกลัวมาก ว่าหลังจากที่อิสราเอลได้รับเชลยศึก ที่ถูกปล่อยตัวไปแล้ว สงครามจะกลับมาอีกครั้ง ผมกลัวว่ามัน (ข้อตกลงหยุดยิง) จะล้มเหลว และผมหวังจากใจจริงว่าจะประสบความสำเร็จ”
อ้างอิงจาก