ก่อนที่เราจะจดบันทึกอะไรสักอย่าง นอกจากมือ ปากกา ดินสอแล้ว คงจะขาดกระดาษไปไม่ได้ ซึ่งถ้าเราพูดถึงกระดาษในยุคแรกๆ แล้ว ก็คงจะคุ้นชื่อกันกับกระดาษโบราณอย่าง ‘กระดาษปาปิรุส’ ซึ่งล่าสุด นักวิจัยสามารถถอดรหัสบนกระดาษนั้นได้แล้วด้วย!
ย้อนกลับไปในปี 2014 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Hebrew University of Jerusalem ได้ค้นพบกระดาษปาปิรุส ขณะกำลังจัดระเบียบห้องเก็บของ ซึ่งกระดาษดังกล่าวถือเป็นกระดาษในยุคแรกๆ โดยเฉพาะของชาวอียิปต์ ที่ทำขึ้นมาเพื่อจดบันทึก ซึ่งอักษรที่ถูกบันทึกไว้ ถูกเรียกว่าเป็นภาษา แนบาเทียน (Nabataean)
นักวิจัยบอกว่าพวกเขาใช้เวลากว่า 10 ปี ในการถอดรหัสข้อความบนกระดาษดังกล่าว กว่า 133 บรรทัด และก็พบว่ามันเป็นบันทึกแบบละเอียดของทนายความชาวโรมัน เกี่ยวกับการพิจารณาคดีของชาย 2 คนที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงภาษี
อัฟเนอร์ เอคเกอร์ หนึ่งในผู้ร่วมวิจัยบอกว่า นี่เป็นคดีในศาลโรมันที่มีการบันทึกไว้อย่างดีที่สุดในแคว้นยูเดีย นอกเหนือไปจากการพิจารณาคดีของพระเยซู
ตามการศึกษานี้ ระบุว่ากระดาษปาปิรุสอาจเขียนขึ้นในวันก่อนการจลาจลบาร์โคคบา (เป็นการลุกฮือต่อต้านการปกครองโรมันของชาวยิวในแคว้นยูเดีย ช่วงปี ค.ศ. 132-135 แต่ไม่สำเร็จ) ซึ่งกระดาษปาปิรุสฉบับแปลใหม่นี้เขียนขึ้นหลังจากที่จักรพรรดิฮาเดรียนแห่งโรมันเสด็จเยือนแคว้นยูเดียเมื่อราวปี ค.ศ. 130 และก่อนการจลาจลของบาร์โคคบา
ตามวิจัย ระบุรายละเอียดคดีของโรมที่ฟ้องบุคคล 2 คน คือกาดาเลียส และซาอูลส์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับการขาย และปลดปล่อยทาสเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีของโรมัน
แอนนา ดอลกานอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านปาปิรุสจากสถาบันวิทยาศาสตร์ออสเตรีย หนึ่งในผู้วิจัยบอกว่า เอกสารดังกล่าวเขียนขึ้นด้วยภาษาที่ชัดเจน และตรงไปตรงมา นอกจากนี้ยังมีสำเนาการพิจารณาคดีที่ร่างขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนของกระดาษที่ขาดหายไป ทำให้ยากต่อการสรุปเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมการพิจารณาคดี ซึ่งนักวิจัยบอกว่า อัยการน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหารการคลังของโรมัน และแนะว่าจำเลยน่าจะเป็นชาวยิว โดยในกระดาษยังกล่าวถึงผู้แจ้งเบาะแสที่แจ้งเบาะแสจำเลยต่อเจ้าหน้าที่โรมันด้วย
Live Science ระบุว่า กระดาษปาปิรุสช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับคำถามที่ถกเถียงกันมาอย่างนานว่า ชาวยิวในสมัยโบราณเป็นเจ้านายทาสหรือไม่ ซึ่งกระดาษระบุว่า ครอบครัวของ ซาอูลส์ (จำเลย) เป็นมีทาสหลายคน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าทาสเหล่านี้เป็นชาวยิวหรือไม่ ขณะที่สถานที่ในการพิจารณาคดีก็ยังคงเป็นปริศนาเช่นกัน
อ้างอิงจาก