ค่ำคืนดึกดื่นในกรุงปราก ผู้คนบางส่วนหลับใหล บางส่วนกำลังใช้ชีวิต เช่นเดียวกับชายคนหนึ่งที่ยังไม่ยอมนอน แม้รู้แก่ใจว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานในสำนักงานประกันอุบัติเหตุ เขาหมกมุ่นอยู่กับต้นฉบับ ราวกับเวลานั้นเป็นเวลาเพิ่งเริ่มวัน และต้นฉบับเหล่านั้นคืองานประจำที่แท้จริง
ความคิดที่ลุกโชติช่วงกลางดึกนั้น ทำให้เรารู้จักเขาในนามของ ฟรันซ์ คาฟคา (Franz Kafka) เจ้าของผลงานเลื่องชื่ออย่าง The Metamorphosis บุรุษเหี่ยวเฉาผู้ติดอยู่ในร่างแมลง
หากแกะรอยกิจวัตรประจำวันของเขา ในส่วนงานประจำ ไม่มีอะไรหวือหวา เขาใช้ชีวิตเช่นเดียวกับเรา เหล่าพนักงานเงินเดือนทุกคน ทุกเช้าเขาจะตื่นราว 7 โมง ออกจากบ้านไปยังสำนักงานประกันอุบัติเหตุที่เขาทำงานประจำ งานของเขาคือเวียนวนอยู่กับตัวเลข เอกสาร และคำอธิบายซ้ำซากไม่สิ้นสุด
หลังเลิกงานในบ่ายแก่ๆ เขากลับบ้าน กินมื้อเย็นกับครอบครัว และมักใช้เวลาสักพักเดินเล่นคนเดียวตามตรอกซอกซอยในละแวกบ้าน
ตกดึกราว 4 ทุ่ม ถึงเวลาเริ่มต้นอีกชีวิตหนึ่ง เขานั่งลงบนเก้าอี้ สอดตัวเข้าไปในโต๊ะ แล้วจุดไฟในความคิด เปลี่ยนจินตภาพไร้รูปรอยในหัวให้กลายเป็นตัวอักษร บางคืนเขียนถึงตี 2 บางคืนจนฟ้าสาง ข้ามการนอนหลับในคืนนั้นไป
จากบางส่วนในบันทึกส่วนตัวเล่าว่า เขามักใช้เวลากับงานเขียนจนบางวันแทบจะดึงขาออกจากใต้โต๊ะไม่ได้เลย ได้แต่แบกน้ำหนักตัวไว้บนหลังเพื่อรีดเค้นความคิดในหัว เขารับรู้เวลาจากผู้คนนอกหน้าต่าง เกวียนแล่นผ่านไป ชาย 2 คนเดินข้ามสะพาน เขารับรู้มันทั้งหมด แม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่เขารู้ดีว่ามีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่ทำให้เขาเขียนออกมาได้
ในตอนกลางวัน เขาเป็นพนักงานคนหนึ่งที่ไหลไปตามสายพานงาน แต่ในยามค่ำ เขาได้กลับมาเป็นใครสักคนที่ไหลไปตามสายธารแห่งความคิดของตัวเอง
การใช้ชีวิต 2 โลกเช่นนี้ค่อยๆ กัดกินร่างกาย เวลานอนที่ควรเป็นเวลาพักผ่อน มาเยี่ยมเยียนเขาเพียงบางคืน บวกกับวัณโรคทำให้เขาอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังฝืนเขียน เพราะรู้ดีว่า หากไม่มีงานเขียน เขาคงสูญสลายไปโดยสมบูรณ์
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ชีวิตที่น่าลอกเลียนแบบนัก แต่มันกลับพิสูจน์ได้ว่า แม้จะผ่านมากว่า 100 ปี ความรู้สึกของคาฟคายังไม่เก่าเลย เรายังตื่นเช้ามาเจอกองงานไม่รู้จบ ยังกลับมาบ้านพร้อมความฝันเล็กๆ ที่ต้องซ่อนไว้จนดึกดื่น
อ้างอิงจาก
https://brittlepaper.com/2012/10/kafka-writing/