แบรนด์ต่างๆ ในทั่วโลกกำลังออกแบบการให้บริการ ที่เป็นมิตรและเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายกันมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับนโยบายที่ Starbucks ประกาศออกมาว่า พนักงานทุกคนในสาขาใหม่ที่วอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ จะสื่อสารภาษามือได้
Starbucks ประกาศนโยบายนี้ออกมา พร้อมกับอธิบายว่า แบรนด์ต้องการจะตอบสนองและสร้างบรรยากาศให้เอื้อกับลูกค้า ที่เป็นผู้ที่มีปัญหาด้านการได้ยินมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่จ้างพนักงานที่สื่อสารภาษามือได้ หากแต่บรรยากาศในร้านก็จะออกแบบให้เอื้อต่อผู้ที่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน
สาขาใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ มีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า ‘Signing Store’ โดยตั้งอยู่ในย่านใกล้กับ Gallaudet University ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่เปิดรับและให้ความสำคัญผู้มีปัญหาด้านการได้ยิน
ภายใน Signing Store นั้น นอกจากจะมีการออกแบบสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับการเครื่องดื่มและอาหาร ยังมีการสร้างพื้นที่ที่เป็นงานศิลปะจากผู้ที่มีปัญหาด้านการได้ยินอีกด้วย อีกทั้ง ยังสามารถใช้พื้นที่จัดงาน event ต่างๆ ขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน
Rossann Williams ผู้บริหารระดับสูงของ Starbucks บอกว่า นโยบายนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงออกว่า ทางแบรนด์เองก็ต้องการที่จะตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมกับยกว่านี่มันคือ “โมเมนต์แห่งประวัติศาสตร์” ของแบรนด์เลยทีเดียว
หลายเดือนที่ผ่านมา Starbucks ได้มีนโยบายใหม่ๆ ออกมา ทั้งเรื่องการตอกย้ำจุดยืนว่า ใครๆ ก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ในร้านได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อกาแฟ รวมไปถึงเรื่องใหญ่ล่าสุดอย่างการเตรียมยกเลิกหลอดพลาสติกแบบ Single-Use ให้หมดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อวิเคราะห์ว่า ช่วงนี้กำลังเป็นเวลาที่ Starbucks กำลังพยายามกอบกู้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เคยเจอข้อวิจารณ์แบบรุนแรง ในกรณีข้อพิพาทเรื่องการให้บริการลูกค้าผิวสีในสหรัฐฯ
อ้างอิงจาก
https://news.starbucks.com/press-releases/starbucks-opens-first-us-signing-store
https://edition.cnn.com/travel/article/starbucks-sign-language-washington-dc/index.html
https://www.washingtonpost.com/business/2018/07/19/starbucks-open-its-first-us-sign-language-store-washington/?utm_term=.102be3aba532
#Brief #TheMATTER