คอกาแฟหลายคน มักจะมีเมนูเครื่องดื่มในใจที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะชื่นชอบความเข้มข้น ความขม หรือรสกาแฟที่แตกต่างไป แต่ต้นกาแฟป่า ที่มาของเมล็ดพันธุ์กาแฟ กำลังมีความเสี่ยงจะสูญพันธุ์ถึงหลายสายพันธุ์ ที่กระทบต่อธุรกิจการเพาะปลูกกาแฟทั่วโลกด้วย
รายงานใหม่ของ Science Advances และ Global Change Biology ระบุว่า สายพันธุ์กาแฟป่ากำลังถูกคุกคามอย่างหนัก และ 60% หรือ 124 สายพันธุ์เผชิญกับโอกาสในการสูญพันธุ์ โดยสายพันธุ์ของกาแฟส่วนใหญ่ที่พบได้ในป่าของแอฟริกา และมาดากัสการ์ ถูกคุกคามจากทั้ง สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และการสูญเสียพื้นที่เพาะปลูก ตามธรรมชาติ รวมถึงการแพร่กระจายของโรคและศัตรูพืชด้วย
กาแฟอย่าง ‘อาราบิก้า’ ที่ได้รับความนิยมมากทั่วโลก ก็อยู่ในขั้นที่อาจสูญพันธุ์เช่นกัน โดยคาดการณ์ว่าพื้นที่ที่สามารถเพาะปลูกได้ในเอธิโอเปีย จะมีอาราบิก้าลดลงถึง 85% ในปี 2080 และกว่า 60% จะไม่สามารถใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกได้แล้วในปลายศตวรรษนี้ ซึ่งการเสี่ยงสูญพันธุ์ของกาแฟ จะกระทบต่อเศรษฐกิจ และรายได้ของเอธิโอเปียแน่นอน เพราะเป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกา และประชากรกว่า 15 ล้านคนต่างก็ทำงานด้านผลิตกาแฟ
ทั้งไม่ใช่แค่ในเอธิโอเปีย แต่ในฟาร์มกาแฟทั่วโลกยังมีประชากรกว่า 100 ล้านคนที่ทำงานในธุรกิจนี้ รวมถึงในด้านอุตสาหกรรมระดับโลก ที่จะได้รับผลกระทบจากการเพาะพันธุ์กาแฟข้ามสายพันธุ์ ที่ต้องใช้สายพันธุ์ป่าเข้ามาเป็นปัจจัยด้วย
Aaron Davis หัวหน้าด้านการวิจัยกาแฟ และผู้นำเขียนรายงานชิ้นนี้ ได้เรียกร้องให้มีการพัฒนา และปรับปรุงการผลิตกาแฟ โดยเน้นไปที่การสะสมเชื้อพันธุกรรม และสร้างธนาคารเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเขามองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดผลในระยะยาว รวมถึงเรียกร้องให้มีการติดฉลากที่ผลิตภัณฑ์กาแฟ เพื่อให้ผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบสิ่งของที่พวกเขาซื้อ และผลด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งเขายังระบุว่า ราคากาแฟอาจจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งถ้ายังคงราคาต่ำไว้เวลานาน จะกระทบต่อเกษตรกรที่จะหยุดปลูกกาแฟได้
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER
