ในยุคที่สังคมไร้เงินสดกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ร้านที่รองรับระบบการจ่ายเงินออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน แต่ในฟิลาเดลเฟียนั้นสังคมไร้เงินสดกลับถูกมองเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ
นายกเทศมนตรี Jim Kenney ของนครฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา ได้เซ็นร่างกฎหมายใหม่ไม่ให้ร้านค้ารับแต่การชำระเงินออนไลน์ จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยร้านไหนที่ไม่ทำตามอาจถูกปรับมากถึง 2000 ดอลลาร์ แต่มีการยกเว้นให้สำหรับบริการที่จอดรถ บริการที่มีการเป็นสมาชิก บริการที่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ บริการออนไลน์ และอื่นๆ ตามที่กฎหมายระบุ
ธุรกิจร้านค้าต่างๆ มองว่าการไม่ใช้เงินสดนั้นทั้งสะดวกและมีประสิทธิภาพ เวลาเกิดการปล้นร้านก็ไม่มีเงินสดเป็นฟ่อนให้ขโมย แต่สำหรับคนที่อยากใช้เงินสดก็ได้เหมือนกันแต่อาจะมีการคิดค่าบริการเพิ่ม
อีกด้านหนึ่งนครฟิลาเดลเฟียกลับมองว่าร้านค้าที่ไม่รับเงินสด รับแต่การจ่ายผ่านแอปพลิเคชัน บัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำและไม่เท่าเทียมกันในสังคม โดยเฉพาะในเมืองที่กว่า 26 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนอยู่ภายใต้เส้นความยากจน
William Greenlee สมาชิกสภาของนครฟิลาเดลเฟียบอกว่ากลุ่มคนที่ไม่มีเครดิตมักจะเป็นคนที่มีรายได้น้อย ชนกลุ่มน้อย และผู้อพยพ ถึงแม้ว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม สิ่งนี้เป็นการสร้างความแบ่งแยก
“มันไม่ค่อยแฟร์เลยที่ผมจะสามารถเดินเข้าไปในร้านกาแฟตรงข้ามศาลากลางเมืองด้วยบัตรเครดิตและสามารถซื้อกาแฟแก้วหนึ่งได้ ส่วนคนข้างหลังผมที่มีธนบัตรของสหรัฐอยู่ในมือกลับซื้อไม่ได้” กล่าวโดย Greenlee
ในขณะเดียวกันบริษัทอย่าง Amazon กำลังกระจายเปิดร้าน Amazon Go ที่ไม่มีแคชเชียร์ ใช้การสแกนผ่านโทรศัพท์มือถือในการเลือกซื้อและจ่ายเงิน กฎหมายใหม่นี้อาจทำให้ร้าน Amazon Go ไม่ได้รับอนุญาตให้มาเปิดในนครฟิลาเดลเฟียก็เป็นได้
การตัดสินใจใช้กฎหมายนี้ทำให้นครฟิลาเดลเฟียกลายเป็นเมืองแรกในสหรัฐอเมริกาที่ละทิ้งร้านค้าแบบดิจิทัลอย่างเป็นทางการ มีรายงานว่าเมืองอื่นๆ อย่าง นิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ชิคาโก และวอชิงตัน ดี.ซี. ก็กำลังอยู่ในช่วงพิจารณากฎหมายในรูปแบบคล้ายๆ กัน
อ้างอิงจาก
https://www.cnet.com/news/philadelphia-becomes-first-us-city-to-ban-cashless-stores-report-says/
https://www.engadget.com/2019/03/08/philadelphia-cashless-store-ban/
https://gizmodo.com/philadelphia-just-banned-most-cashless-stores-a-first-1833145078
#Brief #TheMATTER
